เอเอฟพี - ประเทศไทยเตรียมมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกได้แก่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่นักสังเกตการณ์ชี้ว่าชัยชนะของเธอที่เสมือนเป็นตัวแทนของพี่ชาย มิอาจมองได้ว่าเป็นหลักชัยของสิทธิสตรี โดยเฉพาะว่าที่นายกรัฐมนตรีรายนี้ไม่เคยเอ่ยปากถึงประเด็นสิทธิสตรีแม้แต่น้อย
นางสาวยิ่งลักษณ์เพิ่งเป็นที่รู้จักเมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ก็สามารถนำพาพรรคเพื่อไทยควัาชัยชนะในศึกเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อวันอาทิตย์ (3) อย่างไรก็ตาม ชัดเจนว่าการเจิดจรัสเพียงช่วงค่ำคืนของเธอได้รับอานิสงส์จากพี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ควบคุมพรรคมาจากต่างแดน
จากผลคะแนนที่ออกมา เหล่าผู้หญิงไทยยังอึกอักที่จะอ้างว่าชัยชนะของยิ่งลักษณ์คือชัยชนะของความเท่าเทียม โดยบอกว่ามันเป็นเพียงแค่การอาศัยบารมีของผู้ชายเท่านั้น “เราจะภูมิใจได้อย่างไร ทุกคนทั้งโลกรู้ว่าทั้งหมดมันเกี่ยวข้องกับทักษิณ” สุธาดา เมฆรุ่งเรืองกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา (จีดีอาร์ไอ) กล่าว “คุณสามารถเปรียบเทียบเรื่องนี้ได้กับนางอองซานซูจี ซึ่งพยายามมาตลอด 20 ปี และยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของพม่า”
จากคำสัญญาจะฟื้นฟูนโยบายประชานิยมของพี่ชาย ผู้ถูกรัฐประหารโค่นล้มอำนาจในปี 2006 ปรากฏเด่นชัดว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ใกล้เคียงกับการอยู่ใต้คำบัญชาของทักษิณ และแม้แต่ตัวทักษิณเองก็ยอมรับว่าเธอคือโคลนนิงของเขา
แอนดรูว์ วอลเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองไทยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียบอกว่า “ไม่มีข้อสงสัยเลยว่ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะเธอเป็นน้องสาวของทักษิณ”
แม้ผลสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ Grant Thornton พบว่าประเทศไทยมีผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงถึงร้อยละ 45 เหนือกว่ามาตรฐานโลกร้อยละ 20 แต่หากมองไปยังนักการเมืองหญิงยังคงล้าหลังอยู่มาก
“สังคมไทยบ่อยครั้งผู้หญิงมีบทบาทแข็งขันอย่างมากในวิถีเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน แต่ด้านผู้นำทางการเมือง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ถูกครอบงำโดยผู้ชาย อย่างไรก็ตามสาวน้อยและสาวใหญ่อาจรู้สึกยินดีและได้แรงบันดาลใจจากการพุ่งพรวดขึ้นสู่จุดสูงของของยิ่งลักษณ์” นายวอลเกอร์กล่าว
ดูผิวเผินแล้วอาจเป็นเช่นนั้น แต่นักเคลื่อนไหวหลายคนได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นางสาวยิ่งลักษณ์ต่อการเมินเฉยในประเด็นเกี่ยวกับผู้หญิงระหว่างรณรงค์หาเสียง และหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าประเด็นด้านความเท่าเทียมทางเพศจะอยู่ในวาระลำดับต้นๆ ของเธอหรือไม่
สุธาดากล่าวว่า ระหว่างการหาเสียง นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่เคยปริปากแม้แต่คำเดียวถึงการส่งเสริมสิทธิสตรี “เรามีประเด็นเกี่ยวกับผู้หญิงมากมายในไทย โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรงและมีอคติต่อผู้หญิง” พร้อมตั้งความหวังว่าว่าที่นายกรัฐมนตรีรายนี้จะเข็มแข็งพอที่จะถอยห่างจากเงาของพี่ชายและเป็นตัวของตัวเอง
ขณะที่ อาภาภรณ์ สัมฤทธิ์ อาจารย์จากศูนย์ศึกษาเพื่อสตรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า “เธออาจมีร่างกายเป็นผู้หญิง แต่เธอคิดเหมือนผู้ชาย และฉันไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรที่พิเศษสำหรับผู้หญิง”