xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียตัดสินโทษจำคุก 25 ปี จนท.ทรยศผู้ขายรายชื่อ “สายลับ” ให้สหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แอนนา แชปแมน หนึ่งในสายลับที่ถูก อเลกซานเดียร์ โปเตเยฟ ขายชื่อให้กับสหรัฐฯ
เอเอฟพี - ศาลทหารกรุงมอสโกพิพากษาโทษ 25 ปีลับหลัง อเลกซานเดียร์ โปเตเยฟ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองต่างประเทศระดับสูงของรัสเซีย วันนี้ (27) โทษฐานทรยศหักหลังชาติ และเปิดโปงรายชื่อสายลับ 10 คน ซึ่งถูกสหรัฐฯ ฉีกหน้ากากเมื่อปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวในรัสเซียรายงานว่า โปเตเยฟ ผู้แปรพักตร์วัย 59 ปี ถูกพิพากษาลงโทษจำคุก 25 ปี ตามความผิดทรยศชาติ 20 ปี และละทิ้งหน้าที่อีก 5 ปี อย่างไรก็ตาม โปเตเยฟอาจไม่มีโอกาสได้ชดใช้โทษดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัสเซียเชื่อว่าตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในสหรัฐฯ

“การกระทำของโปเตเยฟส่งผลต่อความมั่นคงของรัสเซีย” สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์อ้างคำกล่าวของผู้พิพากษาหัวหน้าศาลระหว่างการพิจารณาคดีวันนี้

นักวิเคราะห์ความมั่นคงมองว่าการถูกเปิดโปงของทีมสายลับฝังตัว (sleeper spy) ทั้ง 10 คนเมื่อฤดูร้อนปีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายแก่การข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซียอย่างใหญ่หลวง และเผยให้เห็นถึงจุดอ่อนในปฏิบัติการสายลับสอดแนม ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของรัสเซียตั้งแต่สมัยโซเวียต

สายลับทั้ง 10 คนนี้มีหน้าที่หลัก คือ การแฝงตัวอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่ของสหรัฐฯ และเข้าทำงานในหน่วยงานระดับสูงของประเทศ บริษัทเอกชนชั้นนำที่รับผิดชอบงานเทคโนโลยีขั้นสูง หรือข้อมูลลับอื่นๆ

กลุ่มสายลับนี้ฝังตัวอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ โดยหนึ่งในนั้น คือ แอนนา แชปแมน สาวผมแดงทรงเสน่ห์วัย 29 ปี ผู้ผันตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิง หลังถูกเปิดโปงและเนรเทศออกจากประเทศเป้าหมาย

สำนักข่าวในรัสเซียรายงานว่า เมื่อปีที่แล้ว อเลกซานเดียร์ โปเตเยฟ เคยนั่งตำแหน่งรองผู้อำนวยการหน่วยเอส องค์กรลับของสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบด้านการหาตัวสายลับต่างชาติที่ฝังตัวเสมือนเป็นคนอเมริกัน

อินเตอร์แฟ็กซ์รายงานว่า ศาลทหารได้รับฟังว่าโปเตเยฟได้เข้าถึงรายชื่อของสายลับที่ปฏิบัติภารกิจในสหรัฐฯ และได้ขายความลับดังกล่าวให้กับหน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐฯ หรือซีไอเอ

ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลได้อ่านข้อความทางโทรศัพท์ที่โปเตเยฟส่งถึงภรรยาก่อนหนีออกจากรัสเซียว่า “แมรีตั้งสติให้ดี ผมไม่ได้ไปแค่ไม่กี่วัน แต่จะไม่กลับมาอีกเลย ผมไม่อยากทำอย่างนี้ แต่ต้องทำ ผมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และพยายามช่วยเหลือเด็กๆ”
กำลังโหลดความคิดเห็น