เอเอฟพี - ศาลฏีกาสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (20) ลงมติเป็นเอกฉันท์ยกฟ้องคดีของเหล่าพนักงานสาวที่เรียกร้องเงินชดเชยจากวอล-มาร์ต ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ที่พวกเธออ้างว่ามีกฎระเบียบเลือกปฏิบัติต่อคนงานหญิง
ในคดีที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดของปี ศาลฎีกาสหรัฐฯพิพากษาว่า วอล-มาร์ต ไม่ได้มีนโยบายที่กดขี่ตามที่กล่าวหา ดังนั้นจึงไม่ใช่พนักงานหญิงทุกคนที่ถูกเลือกปฏิบัติในเหตุผลแบบเดียวกัน
ทั้งนี้ หากคณะผู้พิพากษาศาลตัดสินเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายโจทก์ คดีฟ้องดำเนินคดีการกระทำเลือกปฏิบัติด้านเพศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ อาจก่อความเสียหายแก่ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของโลกหลายหมื่นล้านดอลลาร์ทั้งจากค่าเสียหายในเชิงลงโทษและเงินชดเชยต่างๆ
แต่ด้วยที่ศาลฏิเสธไม่รับฟ้องดำเนินคดีได้นำไปสู่การจำกัดสิทธิไล่เบี้ยของเหล่าพนักงานหญิงที่อ้างว่าได้ค่าแรงและผลประโยชน์จาการเลื่อนขั้นน้อยกว่าพนักงานชาย
คดีนี้มีขึ้นหลังจากอดีตพนักงานหญิง 6 คนยื่นฟ้องวอล-มาร์ต เมื่อ 6 ปีก่อน โดยพวกเธออ้างว่าบริษัทแห่งนี้มีกฎระเบียบให้ผู้หญิงได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่าเพศชายและถูกมองข้ามสำหรับเลื่อนตำแหน่ง
คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ลงมติ 2 ต่อ 1 ในปี 2007 และอีกครั้ง 6 ต่อ 5 เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ให้สิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีตามความต้องการของพนักงานหญิงเหล่านั้น
ทั้งนี้ ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ทนายความของฝ่ายโจทก์ระบุต่อศาลว่าที่วอล-มาร์ต มีพนักงานหญิงถึง 2 ใน 3 แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ได้รับโอกาสก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งระดับผู้จัดการ
ทนายความฝ่ายโจทก์ยังบอกอีกว่าในเกือบทุกตำแหน่ง ผู้หญิงได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่าผู้หญิงทั้งที่สตรีเหล่านั้นมีอายุงานมากกว่าเพื่อนร่วมงานเสียอีก อย่างไรก็ตาม ศาลเคลือบแคลงต่อข้อโต้แย้งด้วยปกกเปล่าเหล่านั้น
คณะผู้พิพากษาตั้งข้อสงสัยว่านโยบายของวอล์-มาร์ต จะเป็นผลให้คนงานหญิงราว 500,000 ถึง 1.5 ล้านคน ถูกเลือกปฏิบัติเหมือนๆ กันได้จริงหรือ