สตรีซาอุฯขอแหกกฎ “ขับรถ” ได้เหมือนชาย

เอเอฟพี - กลุ่มสตรีนักเคลื่อนไหวชาวซาอุดีอาระเบีย เตรียมจับพวงมาลัยท้าทายกฎระเบียบดั้งเดิมของประเทศซึ่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงขับรถ ในวันศุกร์(17)นี้ โดยไม่หวั่นคำขู่จากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

สตรีกลุ่มนี้เปิดโครงการรณรงค์ในเฟสบุ๊กภายใต้ชื่อ “วีเมนทูไดรฟ์” (Women2drive) โดยบอกว่า จะเริ่มขับรถตั้งแต่วันศุกร์(17)นี้เป็นต้นไป “จนกว่าจะได้รับพระบรมราชานุญาตจากกษัตริย์ซาอุฯให้ผู้หญิงขับรถได้”

ซาอุดีอาระเบียเป็นราชอาณาจักรมุสลิมเพียงแห่งเดียวในโลก ที่ผู้หญิงยังถูกห้ามไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะ

แม้จะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วงที่กำลังลุกลามไปทั่วโลกอาหรับ ทว่าในวันนี้ “ดูเหมือนผู้หญิงซึ่งตกเป็นเหยื่อการกดขี่โดยตรง กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมซาอุฯ” บาดริยา อัล-บิชร์ นักเขียนคอลัมน์และนักเขียนนวนิยาย ระบุ

แม้จะไม่มีกฎหมายที่ห้ามสตรีขับขี่รถยนต์ในซาอุดีอาระเบีย ทว่ากระทรวงมหาดไทยก็ออกกฎดังกล่าวขึ้น โดยอ้างคำตัดสินทางศาสนาที่ว่าสตรีไม่ควรขับรถ ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงซาอุฯจึงต้องสิ้นเปลืองรายได้ไปกับการจ้างคนขับรถต่างชาติ และหากใครไม่มีเงินพอ ก็จะต้องพึ่งพาญาติพี่น้องที่เป็นชายให้พาไปส่งยังสถานที่ต่างๆ

“ผู้นำประเทศควรอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถได้แล้ว สังคมซาอุฯเปลี่ยนไปมาก ประชาชนร้อยละ 60 เป็นคนหนุ่มสาวที่พร้อมจะใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่” บิชร์ กล่าว

ทางการซาอุฯตอบโต้ข้อเรียกร้องนี้ โดยอ้างคำคัดค้านของผู้นำหัวอนุรักษ์นิยมที่ไม่ต้องการให้ผู้หญิงขับรถยนต์เอง ทั้งยังมีการเปิดเพจในเฟสบุ๊กที่สนับสนุนให้บุรุษ “เฆี่ยนตี” ผู้หญิงในปกครองของตนได้ หากพบว่าพวกเธอฝ่าฝืนกฎในวันที่ 17 มิถุนายนนี้

สตรีนักเคลื่อนไหวคนหนึ่งบอกว่า “เมื่อก่อนนี้ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ, โทรทัศน์ หรือโรงเรียนสำหรับผู้หญิง ก็ถูกพวกหัวอนุรักษ์ต่อต้านมาแล้วทั้งสิ้น แต่ที่มีขึ้นได้ก็ด้วยพระบรมราชโองการ”

มานาล อัล-เชริฟ คุณแม่วัย 32 ปี ถูกสั่งจำคุก 2 สัปดาห์เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากออกไปขับรถเองมากกว่า 1 ครั้ง และโพสวีดีโอลงอินเทอร์เน็ต ทำให้ชาวซาอุฯ 3,345 คนเข้าชื่อเรียกร้องให้กษัตริย์อับดุลเลาะห์ทรงเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ และชาวเฟสบุ๊กอีกราว 24,000 คนก็เปิดเพจสนับสนุนให้ปล่อยตัวเธอ

เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 1990 เคยมีกลุ่มสตรี 47คนที่หาญกล้าท้าทายกฎเหล็ก โดยนำรถยนต์ 15 คันออกไปขับรอบกรุงริยาดจนถูกจับกุม พวกเธอถูกลงโทษไม่ให้ทำงานในภาครัฐ และผู้ปกครองก็ถูกเรียกมาตำหนิอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสตรีที่จะออกมาแสดงพลังในวันที่ 17 มิถุนายนนี้บอกว่า พวกเธอไม่ได้วางแผนก่อการประท้วง แต่เชิญชวนให้ผู้หญิงออกมาแสดงสิทธิเสรีภาพ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของประเทศก็ตาม โดยขอให้ผู้ร่วมรณรงค์ทุกคนชูธงชาติซาอุฯและพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์อับดุลเลาะห์ และสวมผ้าคลุมหน้าตามหลักอิสลามด้วย