เอเอฟพี - กำลังทหารอิสราเอลวันนี้ (6) เตรียมพร้อมขั้นสูงสุดรับมือกับความไม่สงบระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นตามเขตหยุดยิงบริเวณชายแดนฝั่งซีเรีย หนึ่งวันหลังมีรายงานว่าผู้ประท้วง 23 คนถูกสังหาร เนื่องจากพยายามลักลอบข้ามเขตแดนไปยังที่ราบสูงโกลาน เพื่อไว้อาลัยให้กับความพ่ายแพ้ต่อกองทัพยิวในสงคราม 6 วันปี 1967
กองกำลังที่ประจำการบริเวณที่ราบสูงโกลานพร้อมรับสถานการณ์เต็มกำลัง หลังจากวานนี้ (5) มีเหตุนองเลือดบริเวณชายแดนอิสราเอล-ซีเรีย ซึ่งสถานีโทรทัศน์แห่งชาติซีเรียรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 23 คน และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 350 คน เมื่อทหารอิสราเอลเปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่พยายามข้ามเขตแดน เพียงเพื่อไว้อาลัย
ด้านกองทัพอิสราเอลโต้ว่าตัวเลขที่ซีเรียเผยแพร่สูงกว่าความเป็นจริง โดยโฆษกกองทัพยิวแถลงว่ามีผู้ประท้วงเสียชีวิตประมาณ 10 คนเท่านั้น หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงขว้างระเบิดเพลิง ซึ่งไปจุดชนวนกับระเบิดในพื้นที่พิพาทที่ไม่มีผู้ใดครอบครองในส่วนของซีเรียเอง
“เราทราบว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 10 คน จากที่ซีเรียรายงานข่าวว่าถูกสังหารเมื่อวาน ความจริงคือพวกเขาใช้ระเบิดเพลิงในเขตกูไนตีเราะห์ ซึ่งไปจุดชนวนกับระเบิดของซีเรียเอง” พ.ท.อาวิตัล เลโบวิตซ์ กล่าวกับเอเอฟพี
อย่างไรก็ตาม โฆษกหญิงผู้นี้ไม่ได้ระบุว่าอิสราเอลยืนยันตัวเลขดังกล่าวได้อย่างไร และไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนผู้บาดเจ็บ
ทั้งนี้ การปะทะวานนี้ (5) ปะทุขึ้นเมื่อผู้ประท้วงจากฝั่งซีเรียหลายร้อยคนเดินขบวนไปยัง 2 จุดสำคัญ กล่าวคือ เมืองกูไนตีเราะห์ (Quneitra) ในเขตที่ไม่มีผู้ใดครอบครอง และเมืองมัจดัลชามส์ (Majdal Shams) บริเวณที่ราบสูงโกลานที่อิสราเอลยึดครอง
ทันทีที่ผู้ประท้วงตัดรั้วลวดหนามที่กั้นเขตแดน กำลังทหารอิสราเอลประกาศเตือนด้วยภาษาอาหรับ และยิงแก๊สน้ำตา หลังจากนั้นจึงยิงขึ้นฟ้าเป็นการเตือนขั้นสุดท้าย ก่อนตัดสินใจยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วง โดยเจตนาเล็งช่วงล่างของลำตัว กองทัพอิสราเอลแถลงเช่นนั้น
การประท้วงครั้งนี้มีกลุ่มชาวปาเลสไตน์เป็นแกนนำ โดยมีจุดประสงค์ในการไว้อาลัยวันครบรอบ 44 ปี ที่กองทัพอิสราเอลยึดครองเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซาในสงคราม 6 วัน เหตุการณ์ที่ชาวอาหรับนิยามว่า “นักซา” (Naksa) ซึ่งหมายความว่า เสื่อมถอย
วานนี้ ยังเกิดการประท้วงขึ้นในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากกระสุนยาง 16 คน และผู้ประท้วงอีก 20 คนต้องรับการพยาบาลหลังจากสูดดมแก๊สน้ำตา ทว่าชายแดนฝั่งเลบานอนกลับเงียบสงบ เนื่องจากทหารเลบานอนห้ามการชุมนุมบริเวณชายแดนด้านอิสราเอลโดยเด็ดขาด