เดลิเมล์ - คุณแม่ลูกสามที่เมื่อปีที่แล้วยังถูกขังอยู่ในร่างตัวเองจากอาการเส้นเลือดสมองแตก เข้าสู่ประตูวิวาห์กับสามีรอบสอง
เคต อัลแลตต์ วัย 40 ปี ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์งุนงงกันเป็นแถว ด้วยการหายจากอาการที่เรียกว่า ‘locked-in syndrome' ซึ่งเป็นสภาพฝันร้ายที่สมองของผู้ป่วยยังทำงาน แต่ร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
อาการเส้นเลือดสมองแตกเฉียบพลันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ส่งผลให้เคตเคลื่อนไหวไม่ได้ตั้งแต่คอลงไป
ก่อนหน้านั้นเคตปวดศีรษะอยู่ราว 1 สัปดาห์ หมอจ่ายยาแก้ปวดและบอกว่าเธอเป็นไมเกรน
แต่สองชั่วโมงต่อมา เคตต้องต่อสู้เพื่อยื้อยุดลมหายใจไว้ ความทรงจำสุดท้ายของเธอคือ มาร์ค สามี กำลังไปที่ครัวเพื่อหาอาหารมาให้ และสิ่งที่รับรู้ต่อมาคือ เธอตื่นขึ้นมาโดยมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตระโยงระยาง
วิธีเดียวในการสื่อสารกับมาร์คและหมอในโรงพยาบาลเชฟฟิลด์ นอร์ธเทิร์น เจเนรัลคือ กะพริบตา 1 ครั้งสำหรับ ‘ใช่' และ 2 ครั้งสำหรับ ‘ไม่ใช่’
แต่น่าอัศจรรย์อย่างมากเมื่อ 8 เดือนต่อมา เคตสามารถยืนและพูดได้อีกครั้ง
และเพื่อยืนยันการหายจากอัมพาตอย่างเหลือเชื่อ กลางเดือนที่แล้ว เคตจูงมือมาร์คเข้าประตูวิวาห์รอบสอง โดยทำพิธีกันที่โบสถ์เดิมและวันเดียวกับเมื่อ 13 ปีที่แล้ว แต่หนนี้มีสักขีพยานเพิ่มขึ้นอีก 3 คือ อินเดีย วัย 12 ปี, ฮาร์วีย์ 10 และวูดดี้ 7
งานแต่งงานมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่เคตขึ้นรับรางวัลเอ็กซ์ตราออร์ดิแนรี วูแมน ออฟ เดอะ เยียร์ ซึ่งเป็นงานระดับประเทศต่อหน้าผู้ชมนับพัน
แต่สำหรับเคต งานแต่งงานรอบสองเป็นสิ่งที่เธอประทับใจที่สุด
“ฉันเดินสู่แท่นพิธีต่อหน้าคนมากมายที่เมื่อปีที่แล้วอาจคิดว่าถ้าจะเจอกันอีกหนคงเป็นในงานศพฉัน
“ฉันร้องไห้เหมือนเจ้าลาในเรื่องเชร็ค คนอื่นๆ ก็ร้อง แต่ฉันร้องดังที่สุด ฉันเตือนมาร์คและเพื่อนๆ แล้วว่างานนี้มีน้ำตาแตกแน่นอน
“นอกจากครอบครัวและเพื่อนๆ แล้ว ในงานยังมีพยาบาลที่เคยดูแลฉัน เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ฉันบอกพวกเธอว่าฉันจะจูงมือสามีเข้าประตูวิวาห์อีกครั้ง
“ตอนนั้นฉันยังพูดไม่ได้ แถมนั่งบนรถเข็น พยาบาลได้แต่กรอกตาและบอกฉันว่า ‘แน่นอน เคต ฉันแน่ใจว่าคุณจะทำได้’
“แต่คนอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้น ซึ่งสงสัยว่าฉันกำลังจะมีปัญหากับสิ่งที่พูดไป เพราะก่อนหน้านี้ฉันประกาศว่าจะวิ่งไมล์นึงตอนคริสต์มาส แต่นั่นดูจะเกินกำลังฉันไปนิดในตอนนี้
“เพราะเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาฉันยังวิ่งได้แค่ 20 เมตรเท่านั้น จากก่อนล้มป่วยที่เคยวิ่งสัปดาห์ละ 70 ไมล์ อย่างไรก็ตาม หลังจากเส้นเลือดสมองแตกไม่ถึงปี ฉันได้ใบขับขี่และขับรถได้อีกครั้ง"
เคตสำทับว่า เพื่อนสนิทที่สุด อลิสัน เฟรนช์ เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอจัดงานแต่งงานอีกหน
“เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยอยากมี เธอปฏิบัติต่อฉันเหมือนฉันเป็นคนปกติ ไม่ใช่คนป่วย
“แม้แต่ช่วงแรกๆ ที่เส้นเลือดในสมองแตกและฉันนอนอยู่โรงพยาบาล เธอยังพูดกับฉันเหมือนปกติ เช่น ‘อย่าทำหน้างอแบบนี้สิ’ และตอนนั้นเองที่ฉันเลื่อนสายตา!
"เธอรู้จักฉันดี แค่มองตาก็รู้แล้ว
“ตอนที่ได้รางวัลผู้หญิงแห่งปี ฉันคิดในใจว่าจะยกให้อลิสัน
“และเป็นความไร้เดียงสาของวูดดี้ที่ทำให้ฉันพูด ตอนที่หมอบอกทุกคนว่าฉันจะพูดไม่ได้อีกต่อไป เขาไม่สนใจและบอกฉันว่า ‘แม่ เรียกชื่อผมหน่อยสิครับ’ แล้วฉันก็ทำอย่างที่เขาขอ แต่ดูท่าทางเขายังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“ฉันจำได้วันที่กลับมาบ้านและนั่งในรถเข็น เขาถามฉันว่าเมื่อไหร่ฉันจะหายเป็นปกติ นั่นเป็นช่วงก่อนที่ฉันจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง เรียนรู้ที่จะขับรถเกียร์แมนนวลใหม่ และลุกขึ้นวิ่ง
“แต่ถึงวันนี้ เมื่อถามว่าฉันปกติดีหรือยัง เขายังตอบว่า ‘ยัง’ อยู่นั่นเอง
“ฉันว่าคงเป็นเพราะเสียงฉันแปลกไป พอเขาพูดเรื่องนี้เราเลยหัวเราะกันทั้งบ้าน”
มาร์ค วัย 44 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บอกว่าการหายอย่างมหัศจรรย์ของเคตทำให้งานแต่งงานเป็นความเบิกบานของทุกคน
“ช่วงแรกๆ ที่เธอป่วยผมร้องไห้หนักเลย รู้สึกเหมือนแทบไม่เหลืออะไร วันที่เราแต่งงานกันครั้งที่สอง ผมเลยหยุดยิ้มไม่ได้
“สำหรับทุกคน ทั้งเพื่อนบ้าน หมอและพยาบาล เพื่อนๆ และครอบครัวของเรา นั่นเป็นช่วงเวลาที่พึงระลึกว่าความสำเร็จยิ่งใหญ่คือการได้เคตกลับคืนมา”
ประสบการณ์และความสำเร็จอันเหลือเชื่อทำให้เคตริเริ่มมูลนิธิของตัวเองที่ชื่อว่า ไฟท์ติ้ง สโตรก เพื่อช่วยคนอื่นๆ ที่มีปัญหาจากโรคหลอดเลือดสมอง โดยใช้เว็บไซต์สื่อสังคมเป็นสื่อกลางและช่องทางระดมเงินบริจาค
“ฉันหวังว่าปีหน้าฉันจะได้ไปพูดตามที่ต่างๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมา ตอนนี้มีธุรกิจขนาดใหญ่ชวนฉันไปเป็นผู้บรรยายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ”
นอกจากนั้น เคตยังเขียนหนังสือ ‘รันนิ่ง ฟรี’ ที่ออกวางแผงเมื่อเดือนที่แล้ว
