“ระนองรักษ์” ควงลูกแถลงข่าว รับ “ไพโรจน์” แพ้ยา มีอาการแทรก สุดท้ายเลือดเป็นพิษเสียชีวิตตั้งแต่ 7 พ.ค.เผยเจ้าตัวสั่งเสียให้จัดงานแต่งลูกก่อนมางานพ่อ ยันไม่คิดปิดบัง พร้อมเก็บศพไว้รอจัดพิธีตามคำขอ 16 พ.ค.พร้อมสานต่อเจตนารมณ์เดิม ลูกชายวอนอย่านำมาเล่นการเมือง “พินิจ-สุวัจน์” ร่วมเสียใจ
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา ภรรยาของว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3พี พรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยบุตรชายทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายพลพีร์ สุวรรณฉวี อดีต ส.ส.นครราชสีมา นายพีรพร สุวรรณฉวี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา และ นายณัฐวัชร์ สุวรรณฉวี ร่วมแถลงข่าวการเสียชีวิตของ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ โดยมีบุคคลที่ใกล้ชิดและแกนนำของพรรค อาทิ นายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำกลุ่ม 3พี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รองหัวหน้าและรักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน และ นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นต้น ร่วมแสดงความเสียใจ
โดย ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ ได้นั่งแถลงพร้อมกับบุตรชายทั้ง 3 คน โดยกล่าวว่า ขอขอบคุณที่ทราบข่าว และเป็นห่วงอาการป่วยของ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ ในนามของครอบครัว ดิฉันกับลูกขอมาชี้แจงว่า ขณะนี้ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลกรุงเทพ จากอาการแพ้ยา และมีอาการอื่นๆ แทรกซ้อน สุดท้ายโลหิตเป็นพิษ ทำให้เสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าวอีกว่า ทางครอบครัวจะทำการเคลื่อนย้ายศพในวันที่ 16 พ.ค.ไปที่ จ.นครราชสีมา เพราะว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ เป็นนักการเมืองมา 25 ปี มีความผูกพันกับ จ.นครราชสีมา โดยเหตุผลที่ทุกคนสงสัยว่า ทำไมเสียชีวิตแล้ว ทางครอบครัวไม่ได้ชี้แจงหรือแจ้งข่าว ตรงนี้ต้องขอชี้แจงว่า เราไม่คิดว่า ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์จะเสียชีวิตเร็ว โดยไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้ อีกทั้ง นายพลพีร์ บุตรชายคนโตของเรา กำลังจะมีงานมงคลสมรสในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ซึ่งก่อนที่ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ จะอาการทรุด ได้สั่งเสียว่า งานแต่งงานของ นายพลพีร์ ต้องจัดต่อไปให้จบ ขอให้ทำเรื่องลูกให้จบไปก่อน หากพ่อเป็นอะไรไปแล้ว ค่อยมางานพ่อ เพราะว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ คิดเสมอว่า จะรักษาตัวให้แข็งแรงแล้วมางานแต่งลูกให้ได้
“ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจครอบครัวของเรา ยืนยันว่า เรามีเจตนาดี ไม่ได้ต้องการปิดบัง เพียงแต่เป็นความต้องการของท่านไพโรจน์ แต่เราก็ไม่อยากให้เกิดความสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น จึงมาชี้แจงในวันนี้ โดยยืนยันว่า ไม่มีอะไรอึมครึมแน่นอน” ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าว
ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดพิธีศพของว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ นั้น ทางครอบครัวยังคงเก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อรอให้งานพิธีมงคลสมรสของ นายพลพีร์ ในวันที่ 14 พ.ค.ผ่านพ้นไปเสียก่อน จากนั้นในวันที่ 16 พ.ค.จึงจะเคลื่อนศพไปไว้ที่วัดสุทธจินดา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยจะทำพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.00 น.และตั้งสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 7 วัน และเก็บไว้บำเพ็ญกุศล 100 วัน ก่อนขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป
เมื่อถามถึงประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกับ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ นั้น ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ท่านห่วงงานแต่งของลูก ขอให้ดำเนินการต่อไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ มีการวางแผนอนาคตทางการเมืองอย่างไร ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าวว่า จะดำเนินการทุกอย่างตามเจตนารมณ์ของ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ เหมือนเดิมทุกอย่าง โดยตนจะมาอยู่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และกลุ่ม 3พี ก็จะมี นายพลพีร์ และ นายพีรพร ที่จะทำหน้าที่สานต่อตามเจตนารมณ์ของว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ ต่อไป ต่อข้อถามที่ว่า ครอบครัวได้ปิดข่าวเรื่องนี้มาตลอด แต่ก็มีคนบางกลุ่มพยายามจะนำเรื่องนี้มาเป็นเรื่องการเมือง ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ ไม่กล่าวอะไร เพียงแต่ส่ายหน้า
หลังจากนั้น นายพลพีร์ บุตรชายคนโต เปิดเผยว่า เหตุผลสำคัญที่ไม่ได้ออกมาแถลงก่อนหน้านี้ เพราะเป็นเจตนารมณ์ของคุณพ่อที่อยากจะมางานแต่งของตน ซึ่งเราต้องทำตามเจตนารมณ์ของท่าน จึงต้องเก็บศพของท่านไว้ที่โรงพยาบาลก่อน หลังเสร็จงานแต่งแล้วจึงจะเคลื่อนไปที่ จ.นครราชสีมา เพราะตนไม่อยากให้นำศพไปไว้ที่วัด เนื่องจากจะเหมือนจากกันไปเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนที่ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ จะเสียชีวิต ได้มีการพูดคุยแนวทางการเมืองหรือไม่ นายพลพีร์ กล่าวว่า คุณพ่อทราบดีว่าการเลือกตั้งครั้งนี้หนักมาก และสกปรก ข่าวการเสียชีวิตของคุณพ่อก็ออกมาจาก อ.โชคชัย และมากระพือในพื้นที่ กทม.
“ทุกคนทราบดีว่าใครสามารถเช็กระบบทะเบียนราษฎรได้บ้าง เราไม่ได้ตั้งใจปิดบัง เพราะทราบดีว่า พ่อเป็นคนของประชาชน มีบทบาทอยู่ในกลุ่ม 3พี และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เราก็ต้องให้เกียรติท่าน ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือเยอะ คิดว่าเมื่อถึงเวลาก็ต้องชี้แจง” นายพลพีร์ กล่าว
เมื่อถามต่อว่า การสูญเสียครั้งนี้จะกระทบต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่ นายพลพีร์ กล่าวว่า เรายังเชื่อมั่นในความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อคุณพ่อในพื้นที่ รวมถึงการสนับสนุนจากพรรค การดูแลการเลือกตั้ง และผู้สมัคร ทางคุณพ่อก็ได้วางแนวทางไว้แล้ว ซึ่งเราจะได้ทำตามแนวทางที่คุณพ่อวางไว้ต่อไป แต่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการนำเรื่องของคุณพ่อมาเป็นกระแสทางการเมือง อย่างไรก็ตามตนก็เข้าใจว่า บางคนต้องการเล่นการเมืองอย่างนั้น
เมื่อถามถึงแนวทางการดำเนินการในนามกลุ่ม 3 พี จะเป็นทิศทางใดต่อไป นายพลพีร์ กล่าวว่า ยังคงเหมือนเดิม ซึ่งทางผู้ใหญ่ ทั้ง นายพินิจ และ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ก็ยังให้การสนับสนุนกันอยู่ โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ซึ่งเราก็ต้องดูแล ส.ส.ในกลุ่มให้ดี เพราะคุณพ่อวางไว้แล้วว่า คนไหนมีความหวังบ้าง จากนี้ก็จะรอนายปรีชา กลับจากประเทศจีนก่อน เพื่อมาพูดคุยกันอีกครั้ง