เอเอฟพี – ครัวเรือนที่มีความมั่งคั่งตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนคิดเป็นประมาณ 1% ของครัวเรือนทั้งโลกในเวลานี้ กำลังเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สมบัติของโลกเอาไว้ราวๆ 39% ทั้งนี้ตามการศึกษาที่เพิ่งนำออกเผยแพร่ของบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (บีซีจี) นับเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าความไม่เท่าเทียมในทางเศรษฐกิจกำลังขยายตัว ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในสภาพถดถอยย่ำแย่
ตามรายงานการศึกษาของบริษัทให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการระดับโลกแห่งนี้ ในปี 2010 ครัวเรือนระดับล้านดอลลาร์ในโลก มีจำนวนเพิ่มขึ้น 12% ขณะที่ทรัพย์สมบัติในการครอบครองของครัวเรือนเหล่านี้ ก็สูงขึ้นจากระดับ 37% ของความมั่งคั่งของโลกเมื่อปี 2009 เป็น 39% ดังกล่าว
ถึงแม้สหรัฐอเมริกาคือจุดศูนย์กลางแห่งการหลอมละลายของภาคการเงินทั่วโลกในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ในปีที่แล้วประเทศนี้กลับมีเศรษฐีระดับล้านดอลลาร์ขึ้นไปเป็นจำนวนมากที่สุด โดยครัวเรือนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯมีจำนวน 5.2 ล้านครัวเรือน มากกว่าปีก่อนหน้านั้น 1.3%
สำหรับอันดับ 2 ได้แก่ญี่ปุ่น มี 1.53 ล้านครัวเรือน จากนั้นจึงติดตามด้วยจีน ที่มี 1.11 ล้านครัวเรือน
ทางด้านสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีครัวเรือนล้านดอลลาร์เป็นอัตราส่วนสูงที่สุด โดยเวลานี้กว่า 15% ของครัวเรือนในนครรัฐแห่งนี้ มีทรัพย์สมบัติอยู่ในการบริหารตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป แซงหน้าทั้งสวิตเซอร์แลนด์ และพวกรัฐร่ำรวยน้ำมันในแถบอ่าวอาหรับ