เอเอฟพี - กระทรวงต่างประเทศปากีสถาน ระบุเมื่อวันอังคาร (10) ยังไม่ได้รับคำร้องขออย่างเป็นทางการจากสหรัฐฯ สำหรับเข้าพบเมียของอุซามะห์ บิน ลาดิน ซึ่งกำลังถูกไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่อิสลามาบัด
“กระทรวงต่างประเทศยังไม่ได้รับคำร้องอย่างเป็นทางการจากสหรัฐฯ” เทห์มินา จันจัว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าว เมื่อถูกถามว่าปากีสถานจะอนุญาตให้ทีมสืบสวนสหรัฐฯ เข้าพบครอบครัวของแกนนำหมายเลข1ของอัลกออิดะห์หรือไม่
ทำเนียบขาวร้องขออิสลามาบัดช่วยตอบโต้ข้อสงสัยเกี่ยวกับความไว้เนื้อเชื่อใจของกันและกันด้วยการยินยอมให้ทีมสืบสวนเข้าถึงภรรยาหม้าย 3 คนของบินลาดินในบ้านพักของเขา หลังเชื่อว่าพวกเธออาจมีข้อมูลสำคัญของอัลกออิดะห์
เจ้าหน้าทหารปากีสถานรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่ายังไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้ หลังถูกผู้สื่อข่าวถามด้วยคำถามแบบเดียวกัน “พวกเธออยู่ภายใต้การควบคุมตัวเพื่อความปลอดภัย” ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวต่อว่า เยเมน และซาอุดีอาระเบีย ประเทศบ้านเกิดของภรรยาทั้ง 3 คนของบิน ลาดิน ก็ยังไม่ได้ยื่นคำร้องขอส่งตัวข้ามแดนมายังปากีสถาน
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คาดหมายว่าปากีสถานจะอนุญาตให้พวกเขาเข้าสืบสวนเหล่าภรรยาหม้ายของบินลาดินเร็วๆ นี้ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ
หน่วยงานของสหรัฐฯ และปากีสถาน อยากทราบว่าเหล่าภรรยาของบิน ลาดิน รู้มากแค่ไหนต่อกรณีแกนนำอัลกออิดะห์รายนี้มาหลบซ่อนตัวในอับบอตตาบัดได้อย่างไร และใครคอยให้ความช่วยเหลือเขาระหว่างหลบซ่อนตัว ณ เมืองแห่งนี้เป็นเวลานานกว่า 5 ปี
ความตึงเครียดพุ่งทะยานระหว่างสองชาติพันธมิตรต่อต้านก่อการร้ายตามหลังหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ บุกจู่โจมสังหารบิน ลาดิน ชายผู้เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก ในบ้านพักใกล้เมืองหลวงของปากีสถาน
สหรัฐฯ ขอให้มีการสืบสวนว่าแกนนำอัลกออิดะห์รายนี้มาพักอยู่ในเมืองแห่งนี้นานหลายปีได้อย่างไรโดยที่ปากีสถานไม่ระแคะระคายทั้งที่บ้านพักของบินลาดิน อยู่ห่างจากค่ายทหารไม่ถึง 1 กิโลเมตร และห่างจากกรุงอิสลามาบัดเพียง 56 กิโลเมตร แต่ทางปากีสถานก็ประณามปฏิบัติการจู่โจมดังกล่าวและปฏิเสธถึงกรณีถูกกล่าวหาให้ที่หลบซ่อนผู้บงการเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 3,000 ศพ