เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ภรรยา 3 คน ลูกๆ 12 คน อีกทั้งวัว กระต่าย และไก่กว่าร้อยตัวของอุซามะห์ บิน ลาดิน ต่างซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังกำแพงสูงลิบในเมืองอับบอตตาบัด สถานที่ซึ่งแกนนำกลุ่มอัลกออิดะห์พยายามใช้ชีวิตครอบครัวด้วยการเลี้ยงสัตว์ การทำแปลงเกษตร และวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ก่อนถูกหน่วยซีลส์บุกสังหาร
คลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือที่เจ้าหน้าที่ทหารปากีสถานได้มาทำให้เห็นภาพสุดท้ายของชีวิตอันเรียบง่ายในชนบทของบิน ลาดิน
หน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ บุกค้นบ้านหลังสุดท้ายของบิน ลาดินในเมืองอับบอตตาบัดทุกซอกทุกมุม ระหว่างภารกิจยามวิกาล เมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาหิมาลัยในปากีสถาน และไม่ใช่เป็นสิ่งปลูกสร้างที่หรูหราดังเช่นที่สหรัฐฯ เสนอแนะในขั้นต้น
อาคาร 3 ชั้นที่กลายเป็นลานประหารแกนนำกลุ่มอัลกออิดะห์หลังนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี 2005 ด้วยกำแพงสีขาว รูปทรงสี่เหลี่ยมและไม่มีแม้แต่ระเบียง สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนคลินิกขนาดย่อมๆ มากกว่าเคหสถานในย่านชนบท
ภายในตัวบ้านมีผู้คนอยู่ร่วมชายคากับอุซามะห์ บิน ลาดิน จำนวนนับสิบกว่าคน ซึ่งรวมถึงภรรยา 3 คน และลูกๆ อีก 12 คนของจอมบงการแห่งอัลกออิดะห์ผู้ล่วงลับ
ข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงปากีสถานเปิดเผย ว่า ปฏิบัติการของหน่วยซีลส์สหรัฐฯ ได้ปลิดชีพอย่างน้อย 5 ศพ ผู้เสียชีวิตประกอบด้วยบิน ลาดิน ซึ่งศพของเขาทหารอเมริกันยึดไป ลูกชายของเขา 1 คน องครักษ์ข้างกาย 2 คน ซึ่งรู้กันในนาม “ชาวคูเวต” และผู้หญิงอีก 1 คน
ภรรยาทั้ง 3 คนและลูกๆ ของบิน ลาดินสามารถรอดชีวิตมาได้ และกำลังอยู่ในการคุ้มครองของกองทัพปากีสถาน ทั้งนี้จากการสอบสวน อามาล อาห์เหม็ด อับดุลฟัตเตาะห์ สตรีชาวเยเมนวัย 29 ปี ภรรยาที่อายุน้อยที่สุดของบิน ลาดิน เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ ว่า บิน ลาดินใช้ชีวิตอยู่ในบัานพักหลังดังกล่าวมาแล้ว 5 ปี
ชีวิตภายในบ้านของบิน ลาดิน มีสองพี่น้อง “ชาวคูเวต” คอยดูแล โดยทั้งสองใช้ชื่อว่า อาร์ชัด ข่าน กับตอริก และมักลาดตระเวนไปรอบๆ เมืองอับบอตตาบัดอยู่เป็นประจำ
สื่อกรุงอิสลามาบัดรายงาน ว่า บุรุษสองคนนี้ใช้ชื่อปลอม แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นชาวปากีสถาน บิดาของทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ที่เขตวาซิริสถาน ฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน พวกเขาคบหาเป็นเพื่อนกับ อุซามะห์ บิน ลาดินตั้งแต่ได้พบกัน
บ้านที่ถูกเลือกเป็นรังกบดานของบิน ลาดินนี้ปูพื้นด้วยแผ่นกระเบื้องสีเทา กำแพงและบันไดเป็นคอนกรีตที่สร้างอย่างเรียบง่าย การตกแต่งภายในก็แสนธรรมดา โดยมีเครื่องเรือนทำจากไม้ ที่นอนฟองน้ำ และโทรทัศน์เครื่องเก่า ทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนไหนที่อธิบายได้ว่า บิน ลาดินมีชีวิตที่หรูหราแม้แต่น้อย
ภายนอกตัวบ้าน บิน ลาดินเลี้ยงไก่และปลูกผักสวนครัวไว้ใต้ร่มเงาของกำแพงสูง และหมู่ต้นปอปลาร์ เขาเพาะบ่มชีวิตจนใกล้เคียงกับคำว่า การพึ่งพาตัวเอง
“พวกเขาเลี้ยงวัว 2 ตัว หมาหลายตัว และมีไก่เกินกว่าร้อยตัว มากมายเลยล่ะ เสียงของไก่ดังมาถึงบ้านเรา” มูฮัมหมัด กูซิม เพื่อนบ้านของบิน ลาดิน เล่า
ซอราร์ เพื่อนบ้านวัย 14 ปีอีกคนหนึ่งอ้างว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าไปในเคหสถานนั้น เขาเล่าว่า “ผมพบกับผู้หญิง 2 คน พวกเธอพูดภาษาอาหรับ และให้กระต่ายผมมา 2 ตัว”
ยิ่งไปกว่านั้น ในจำนวนเพื่อนบ้านทั้งหลาย ชามเรซ มูฮัมหมัด เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังสวนเกษตรของบิน ลาดินได้เป็นบางครั้งบางคราว เกษตรกรผู้นี้มีหน้าที่ให้อาหารสัตว์และช่วยดูแลแปลงมะเขือเทศ ต้นกะหล่ำดอก และพืชผักอื่นๆ ในผืนดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้
“แปลงเกษตรของบิน ลาดิน” น่าจะเป็น “เกษตรอินทรีย์” เนื่องจากชาวบ้านในละแวกนั้นไม่นิยมฉีดยาฆ่าแมลง
เมื่อวันอังคาร (3) กำลังทหารของปากีสถานได้เข้าไปยึดบ้านของบิน ลาดิน ทหารกลุ่มนี้อาจจะแบ่งสัตว์เลี้ยงต่างๆ ของบิน ลาดินที่ถูกทิ้งไว้ เพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพี
ทั้งนี้ ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับกลุ่มนักรบมุสลิมหัวรุนแรงระบุ ว่า บิน ลาดินมีสุขภาพไม่สู้ดีนัก เขามีปัญหาเกี่ยวกับไต ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด ทว่าไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนเคยเห็นบุคคลใดเป็นแขกประจำของบ้านหลังนี้
สื่อปากีสถานรายงานถึงประเด็นนี้โดยอ้างอิงข้อมูลจากอามาล อาห์เหม็ด อับดุลฟัตเตาะห์ ว่า บิน ลาดิน สามีที่อายุมากกว่าถึง 25 ปีของเธอ ยังแข็งแรงดี ก่อนถูกสังหาร