เอเอฟพี - ชาวมุสลิมก่อเหตุตะลุมบอนกับชาวคริสต์ ณ กรุงไคโร อียิปต์ วานนี้ (7) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 100 ราย มิหนำซ้ำยังเกิดเพลิงไหม้โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และความมั่นคงอียิปต์รายงาน
ชาวอียิปต์ทั้งสองกลุ่มเข้าปะทะกัน หลังจากกลุ่มชาวมุสลิมก่อเหตุโจมตีโบสถ์คอปติกเซนต์มีนา ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนอิมบาบา ถิ่นพำนักของชนชั้นแรงงาน โดยชาวมุสลิมกลุ่มนี้ต้องการให้ทางโบสถ์ปล่อยตัวสตรีชาวคริสต์คนหนึ่ง ซึ่งถูกอ้างว่าต้องการเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม จึงถูกควบคุมตัว
บาทหลวงเฮอร์มีนา ศาสนาจารย์ประจำโบสถ์แห่งนี้ ให้ข้อมูลกับเอเอฟพีว่า มีชาวคริสต์คอปติกอย่างน้อย 5 คนถูกยิงเสียชีวิต เมื่อแก๊งอันธพาลและกลุ่มมุสลิมนิกายซาลาฟีบุกโจมตีช่วงเย็นวานนี้
สภาพภายในโบสถ์เต็มไปด้วยคราบเลือด ขณะมีการปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนภายนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จอดรถยนต์หุ้มเกราะขวางทางสัญจร เพื่อสกัดกลุ่มผู้ประท้วงชาวมุสลิม
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้า ขณะชาวคริสต์คอปติกบริเวณด้านหน้าโบสถ์ และชาวมุสลิมที่ปักหลักอยู่ตามถนนขว้างปาก้อนหินใส่กัน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ประท้วงชาวมุสลิมได้ขว้างระเบิดเพลิงเข้าใส่โบสถ์ จนระเบิดเพลิงลูกหนึ่งลุกลามไปถึงอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ จนกลายเป็นเพลิงไหม้
กำลังทหารกรุงไคโรได้ผลักดันกลุ่มมุสลิมที่ขยับเข้ามาใกล้โบสถ์มากขึ้นทุกที มีการยิงปืนข่มขู่เพื่อสลายการชุมนุม ในเวลาต่อมา หน่วยปฏิบัติการพิเศษได้เข้าประจำการบริเวณด้านหน้าของโบสถ์เซนต์มีนา ป้องกันเหตุการณ์บานปลาย
บาทหลวงเฮอร์มีนาและพพยานหลายปากยืนยันว่า พวกมุสลิมพยายามบุกเข้าไปยังโบสถ์ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ โดยอ้างว่ามีสตรีชาวมุสลิมถูกจับตัวอยู่ภายใน
หลังจากนั้น โบสถ์คริสต์อีกแห่งหนึ่งในชุมชนอิมบาบา ซึ่งตั้งอยู่นอกเหนือการดูแลของเจ้าหน้าที่ ถูกกลุ่มมุสลิมขว้างปาระเบิดเพลิงเข้าใส่ จนเกิดเพลิงไหม้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า สามารถสกัดเพลิงไว้ได้
มุสลิมกลุ่มหนึ่งที่ถูกกักบริเวณเปิดเผยว่า ชาวคริสต์เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ขณะพวกเขาพยายามเข้าไปตามหาตัวสตรีชาวคริสต์ที่ถูกอ้างว่า ต้องการเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่พบอาวุธใดๆ ภายในโบสถ์เซนต์มีนา
ทั้งนี้ ชาวอียิปต์ราว 10 เปอร์เซนต์จากจำนวนประชากร 80 ล้านคน นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคอปติก ซึ่งได้ร้องเรียนบ่อยครั้งถึงปัญหาสองมาตรฐาน และมักตกเป็นเหยื่อเหตุความรุนแรงทางศาสนา
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม คณะทหารผู้ปกครองอียิปต์ได้ประกาศมาตรการขั้นรุนแรง จัดการกับใครก็ตามที่ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกทางศาสนา เพื่อบรรเทาความตึงเครียดระหว่างอิสลามกับคริสต์
อนึ่ง ทางโบสถ์คอปติกเคยปฏิเสธแล้วว่า สตรีผู้เป็นต้นตอของปัญหาไม่ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามแต่อย่างใด ข้ออ้างที่ได้รับการริเริ่มมาจากเครือข่ายของอัลกออิดะห์ในอิรัก ซึ่งก่อการสังหารหมู่ชาวคริสต์ในกรุงแบกแดด เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2010 และประกาศกร้าวว่า จะไม่หยุดโจมตีจนว่าสตรีผู้ต้องการเปลี่ยนศาสนาจะได้รับอิสรภาพ