เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันวานนี้(6) ดิ่งลงต่อเนื่อง โดยตลาดนิวยอร์กร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงร้อยละ 15 หรือเกือบ 17 ดอลลาร์ จากความกังวลว่าน้ำมันแพงอาจกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดในแดนบวกตามข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ
หลังจากเขย่าตลาดด้วยการทรุดลงกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี(5) ราคาน้ำมันพยายามดีดตัวกลับในช่วงต้นของการซื้อขาย ทว่าสุดท้ายแล้วก็ปรับลงอย่างรุนแรงอีกครั้ง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 2.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายระหว่างวันพุ่งขึ้นไปเหนือ 102 ดอลลาร์อีกครั้ง ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้หลังจากพุ่งผ่าน 114 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 เมื่อวันศุกร์(29) ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์ก ปรับลดลงมาถึง 15.4 เปอร์เซ็นต์หรือ 16.75 ดอลลาร์เลยทีเดียว ถือเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับลดรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายในปี 1983 เลยทีเดียว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(6) ปิดบวกพอประมาณ จากข้อมูลการสร้างงานใหม่ในเดือนเมษายน ทว่าเทียบไม่ได้กับที่ปรับลดอย่างรุนแรงหนึ่งวันก่อนหน้านี้ตามแรงฉุดของหุ้นกลุ่มพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 54.64 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,638.81 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 12.84 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,827.56 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.10 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,340.20 จุด
ความเคลื่อนไหวในทางบวกของตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(6) มีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานระบุว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นถึง 224,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้นักวิเคราะห์บอกว่า แม้ในรายงานอีกชิ้นของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเผยตัวเลขคนว่างงานในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9.0 จากร้อยละ 8.8 ของเดือนมีนาคม แต่ข้อมูลดังกล่าวก็ไม่ได้บ่งชี้ถึงแนวโน้มโดยรวมของเศรษฐกิจ