เอเอฟพี - แผนการของนานาชาติที่จะช่วยเหลือกบฏลิเบียด้านการเงิน ด้วยทรัพย์สินของรัฐบาลลิเบียที่ถูกชาติตะวันตกอายัด เพื่อสนับสนุนการสู้รบกับรัฐบาล พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี เป็นเสมือน “การปล้นของโจรสลัดในน่านน้ำสากล” รัฐมนตีรช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศลิเบีย แถลงวันนี้ (6)
“ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายสากล ลิเบียยังคงเป็นรัฐเอกราช และการใช้ทรัพย์สินใดๆ ที่อายัดจากลิเบียไป เป็นเสมือนโจรสลัดที่ปล้นสะดมในน่านน้ำสากล” กอลิด กาอิม รัฐมนตีรช่วยต่างประเทศลิเบียแถลงข่าวในกรุงตริโปลี
กลุ่มนานาชาติที่พัวพันกับสงครามลิเบียประชุมร่วมกัน ณ กรุงโรมวานนี้ (5) โดยได้ข้อตกลงว่า จะตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือฝ่ายกบฏลิเบีย ซึ่งเงินทุนขั้นต้นจะมาจากการบริจาคและเงินกู้ยืม อีกทั้งมีการให้คำมั่นว่า หลังจากนี้จะนำทรัพย์สินที่อายัดมาจากรัฐบาลกัดดาฟีไปสนับสนุนกลุ่มกบฏ
กาอิมยังได้ปรามาสทุกประเทศที่เข้าร่วมกับกลุ่มนี้ โดยระบุว่า “กลุ่มประเทศเหล่านี้มีความไม่ชัดเจน เป็นองค์กรที่ประหลาด เราจะถือว่าพวกเขาไม่มีตัวตน”
เมื่อนักข่าวถามว่า จะมีการรับประกันความปลอดภัยให้กับเรือที่บรรทุกความช่วยเหลือไปยังเมืองมิสราตา ซึ่งถูกกองกำลังรัฐบาลปิดล้อมอยู่หรือไม่ กอลิด กาอิมตอบว่า รัฐบาลลิเบียยังคงมีจุดยืนในการตัดสินใจปิดเมืองท่าดังกล่าว
“เราจะไม่ยอมให้เรือพวกนั้นนำอาวุธเข้าไปยังเมืองมิสราตา และช่วยอพยพพวกอาชญากร” เขากล่าว หลังจากเมื่อวันพุธ (4) เรือขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) ได้ส่งมอบเสบียง และอพยพผู้ลี้ภัยออกจากท่าเรือเมืองมิสราตา ท่ามกลางการยิงปืนใหญ่ถล่มของกองกำลังกัดดาฟี
ทั้งนี้ การประท้วงใหญ่ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากการโค่นล้มผู้นำตูนิเซียและอียิปต์ ได้ยกระดับกลายเป็นสงครามกลางเมือง เมื่อกองกำลังของมูอัมมาร์ กัดดาฟี เปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วง จนลุกลามยึดครองเมืองต่างๆ ในดินแดนด้านตะวันออกของลิเบีย