เอเจนซี/เอเอฟพี - กองกำลังความมั่นคงซีเรียสาดกระสุนจริงและแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยทั่วประเทศเมื่อวันศุกร์(22) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 ราย จำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 1 คน ในเหตุจลาจลวันนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่การประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด
การชุมนุมซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำหลังพิธีสวดมนต์วันศุกร์ ได้กลายเป็นสัปดาห์ที่นองเลือดที่สุด หลังจากกองกำลังด้านความมั่นคงพยายามสลายกลุ่มผู้ประท้วง อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวนมากกลับกลายเป็นการสร้างความเริงร่าแก่แกนนำที่เพิ่มข้อเรียกร้องเข้มข้นขึ้นจากเดิมที่ขอให้มีการปฏิรูป สู่การโค่นล้มอำนาจการปกครองอันยาวนานกว่า 40 ปีของอัสซาด
อัมมาร์ กูบารี ประธานองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติซีเรียระบุว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตได้พุ่งเป็น 49 คนแล้วและมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 20 คน ส่งผลให้ตลอด 5 สัปดาห์แห่งการชุมนุมมีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 250 คน อย่างไรก็ตามจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นยังคงสับสนเนื่องจากนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานบัญชาการในลอนดอนบอกว่ามีคนตายในเหตุปราบปรามครั้งนี้ถึง 72 คนและบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนเลยทีเดียว
"กระสุนปลิวว่อนอยู่เหนือศีรษะของพวกเขายังกับห่าฝน" ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งในหมู่บ้านอิซรา ในเมืองดารา ดินแดนที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งเหตุจลาจลนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม
จลาจลในซีเรียได้แรงบันดาลใจจากเหตุปฏิวัติประชาชนในโลกอาหรับเมื่อเร็วๆนี้ ทว่าในซีเรียมีความแตกต่างอย่างมาก ทำให้แนวโน้มของบทสรุปทางการเมืองจึงมิอาจคาดเดาได้
โครงสร้างทางทหารในประเทศแห่งนี้ต่างออกไปไม่เหมือนกับที่ตูนีเซียและอียิปต์ โดยกองทัพซีเรียและกองกำลังด้านความมั่นคงยืนข้าง อัสซาด อย่างหนักแน่น นั่นจึงหมายความว่าวันเวลาแห่งความมืดมิดในซีเรียยังรออยู่เบื้องหน้า
ในวันศุกร์(22) ประชาชนหลายหมื่นคนได้รวมตัวประท้วงที่ย่านดูมา ชานกรุงดามัสกัส และอีกหลายๆเมืองอาทิ ฮามากับฮอมส์ ทางภาคกลางของประเทศ รวมทั้งเมืองลาตาเกียและบานีอัส ตามชายฝั่งทะเล เมืองรักกาและอิดลิบ ทางภาคเหนือ เช่นเดียวกับที่แคว้นเคิร์ดและจังหวัดดารา ทั้งนี้ฉากแห่งการนองเลือดปรากฎขึ้นหลังเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันศุกร์(22) ไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนสืบเนื่องจากรัฐบาลซีเรียขับไล่สื่อมวลชนและห้ามเข้าไปยังจุดที่มีปัญหา ขณะที่พยานผู้เห็นเหตุการณ์ก็ร้องขอไม่ให้เปิดเผยชื่อเนื่องจากหวั่นกลัวว่าอาจถูกแก้แค้น