xs
xsm
sm
md
lg

“ฝรั่งเศส” บังคับใช้กฎหมายห้ามสตรีสวม “ผ้าคลุมหน้า” อย่างเป็นทางการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฝรั่งเศสบังคับใช้กฎหมายห้ามสตรีมุสลิมคลุมหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว วันนี้(11)
เอเอฟพี - ฝรั่งเศสซึ่งมีประชากรมุสลิมอยู่มากที่สุดในยุโรป สั่งห้ามสตรีสวมผ้าคลุมหน้าในที่สาธารณะอย่างเป็นทางการแล้ว วันนี้ (11)

แม้ประเทศยุโรปอื่นๆ จะเริ่มออกกฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมทั้งใบหน้า (บุรกอ) และผ้าคลุมซึ่งเปิดเฉพาะดวงตา (นิกอบ) บ้างแล้วก็ตาม แต่ฝรั่งเศสเป็นชาติแรกที่กล้าเสี่ยงต่อความขัดแย้งในสังคม ด้วยการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว

กฎหมายห้ามสวมผ้าคลุมหน้ามีผลบังคับใช้ ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลฝรั่งเศสกับชาวมุสลิมกลุ่มน้อยในประเทศ ซึ่งกล่าวหาว่าประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี พยายามตั้งแง่กับอิสลาม เพื่อเรียกเสียงสนับสนุนจากกลุ่มขวาจัด

เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสประมาณการณ์ว่า ในจำนวนประชากรมุสลิม 4-6 ล้านคน มีสตรีเพียง 2,000 คนที่สวมผ้าคลุมหน้าตามประเพณีอาหรับและเอเชียใต้

อย่างไรก็ตาม ชาวมุสลิมและนักสิทธิมนุษยชนจำนวนมากมองว่า ซาร์โกซี พยายามกดดันกลุ่มชนที่เปราะบางมากที่สุดในสังคม เพื่อเอาใจประชาชนที่รังเกียจผู้อพยพ ซึ่งกลัวว่าอิสลามจะเป็นอันตรายต่อวัฒนธรรมฝรั่งเศส

เมื่อวันเสาร์ (9) ที่ผ่านมา ตำรวจฝรั่งเศสได้จับกุมพลเมือง 59 คน รวมถึงสตรีคลุมหน้า 19 รายที่ออกมาประท้วงในกรุงปารีส ขณะที่อีก 2 คนซึ่งพยายามเดินทางไปรณรงค์ต่อต้านกฎหมายห้ามคลุมหน้าในอังกฤษ และเบลเยียม ก็ถูกจับเช่นกัน

นักวิจารณ์บางคนเกรงว่า กฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้ได้ยาก เนื่องจากสั่งห้ามประชาชนสวมเครื่องปกปิดใบหน้าทุกชนิดโดยไม่คำนึงถึงศาสนา และตำรวจเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปถอดผ้าคลุมศีรษะของสตรีออกด้วย

ผู้ที่ไม่ยอมเปิดหน้าให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกลักษณ์จะถูกนำไปสถานีตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจใช้วิธีเกลี้ยกล่อมต่อไป หรือสั่งปรับก็ได้

สตรีที่ยืนกรานจะปิดหน้าอาจถูกปรับเป็นเงินถึง 150 ยูโร (6,500 บาท) และถูกส่งไปอบรมความประพฤติ นอกจากนี้ยังมีบทลงโทษสำหรับบิดา, สามี หรือผู้นำศาสนาที่บังคับให้สตรีสวมผ้าคลุมหน้า โดยจะถูกปรับเป็นเงิน 30,000 ยูโร (1,290,000บาท) หรือจำคุก 1 ปี

กฎหมายดังกล่าวทำให้กลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ ซึ่งรวมถึง อุซามะห์ บินลาดิน ระบุว่าฝรั่งเศสต้องการทำสงครามกับอิสลาม และเรียกร้องให้มุสลิมลุกขึ้นต่อสู้
ลักษณะการคลุมผมและปกปิดใบหน้าของสตรีมุสลิมในแบบต่างๆ (ภาพ:รอยเตอร์)
รัฐสภาเบลเยียมผ่านกฎหมายห้ามปกปิดใบหน้าแล้วเช่นกัน แต่ยังรอการบังคับใช้ ขณะที่ผู้นำขวาจัดของเนเธอร์แลนด์ก็สนับสนุนกฎหมายดังกล่าว ส่วนพรรค นอร์เทิร์น ลีก ของอิตาลีก็พยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลเอาอย่างฝรั่งเศส

อายะ และ อุมมร์ อิสรอ สตรีมุสลิม 2 รายในฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า พวกเธอคงไม่กล้าท้าทายกฎหมาย แต่หากไม่สามารถสวม “นิกอบ” ในที่สาธารณะได้ ก็คงจะออกจากบ้านน้อยลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากฎหมายดังกล่าวอาจทำให้คนส่วนหนึ่งต้องกลายเป็นพลเมืองชั้นสองที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวต่อสังคมได้

ล่าสุดพบว่ากฎหมายดังกล่าวถูกละเมิดในทันทีที่บังคับใช้ โดย เคนซา ไดรเดอร์ หญิงวัย 32 ปีจากเมืองอาวีญง ที่เป็นเสมือนตัวแทนสตรีมุสลิมฝรั่งเศสผู้สวมนิกอบ

“ฉันได้รับเชิญให้ไปออกรายการโทรทัศน์ และก็พบว่าวันนี้คือวันที่ 11 เมษายน ซึ่งรัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายห้ามคลุมหน้าอย่างเป็นทางการ” ไดรเดอร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนจะขึ้นรถไฟไปปารีส

“กฎหมายฉบับนี้ละเมิดสิทธิความเป็นชาวยุโรปของฉัน ฉันจึงต้องออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองที่จะไปไหนมาไหน หรือปฏิบัติตามหลักศาสนาที่นับถือ” ไดรเดอร์ ซึ่งเป็นอาสาสมัครและมารดาของบุตร 4 คน กล่าว

ด้าน อัลลาล สามีของเธอ ระบุว่า “ตามกฎหมายข้อนี้ ภรรยาของผมจะต้องเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่กับบ้าน คุณคิดว่านี่เป็นเรื่องปกติหรือเปล่าล่ะ? เธอสวมผ้าคลุมหน้ามา 13 ปีแล้ว และก็ไม่เคยทำให้ใครตกใจเลย”

บรรดานักสิทธิมนุษยชนเตรียมจะประท้วงกฎหมายดังกล่าวที่ใจกลางกรุงปารีสวันนี้(11) ขณะที่นักธุรกิจรายหนึ่งก็เปิดประมูลทรัพย์สินมูลค่า 2 ล้านยูโร เพื่อระดมทุนไว้เป็นค่าปรับสำหรับมุสลิมที่ยืนยันจะสวมผ้าคลุมหน้าต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น