เอเอฟพี - รถถังอิสราเอลยิงปืนใหญ่โจมตีฉนวนกาซา สังหารชาวปาเลสไตน์ไปหนึ่งคน เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9) ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็น 12 ราย นับเป็นสถานการณ์ครั้งรุนแรงที่สุด ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
การตอบโต้ด้วยความรุนแรงแบบตาต่อตาฟันต่อฟันปะทุขึ้นต่อเนื่อง แม้มีเสียงเรียกร้องจากสหภาภพยุโรป และองค์การสหประชาชาติให้ทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้ง
สถานีวิทยุทหารของอิสราเอลรายงานว่า ถูกโจมตีด้วยกระสุนปืนครก และจรวดรวม30 ลูก ซึ่งยิงออกมาจากฉนวนกาซาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยกระสุนปืนครก 20 ลูก และจรวดแกรดอีก 10 นัด ตกในพื้นที่รอบๆ เมืองอัชโดด เบเออร์เชบา และเมืองเคอร์ยัตกัต
ด้านรถถังอิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยกระสุนปืนใหญ่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกหนึ่งราย ในเมืองทางตะวันออกใกล้ๆ กับเมืองกาซา เจ้าหน้าที่พยาบาลเปิดเผยข้อมูล โดยไม่ได้ระบุว่า ผู้เคราะห์ร้ายเป็นพลเรือนหรือนักรบ
การปะทะครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (7) เมื่อนักรบของกลุ่มฮามาส ผู้ปกครองฉนวนกาซา ยิงมิสไซล์ต่อสู้รถถังโจมตีรถโรงเรียนอิสราเอล ทำให้เยาวชนชาวยิวได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เช่นเดียวกับพนักงานขับรถคันนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่การลอบโจมตีรถโรงเรียนเมื่อวันพฤหัสบดี กองทัพอิสราเอลได้ปฏิบัติการไล่ล่าข้ามพรมแดนฉนวนกาซาหลายสิบครั้ง จนถึงช่วงเช้าวันนี้ มีชาวกาซาเสียชีวิตแล้ว 17 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กวัย 10 ปี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พยาบาลเปิดเผยว่า ชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 57 ราย ซึ่งอาการสาหัส 12 ราย
การสูญเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์ 12 คนในช่วง 24 ชั่วโมงนี้นับเป็นเหตุการณ์ครั้งร้ายแรงที่สุดในฉนวนกาซา ตั้งแต่สิ้นสุดปฏิบัติการแคสต์ลีด (Operation Cast Lead) ซึ่งปาเลสไตน์ถูกทัพอิสราเอลโจมตี เมื่อเดือนธันวาคม 2008 ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปกว่า 1,400 คน มากกว่าครึ่งเป็นพลเรือน ส่วนอิสราเอลสูญเสียไพร่พลเพียง 13 คน