เอเอฟพี - เหตุอาฟเตอร์ช็อกครั้งรุนแรงเขย่าพื้นที่ประสบภัยสึนามิของญี่ปุ่นเมื่อคืนวานนี้ (7) ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายไปแล้วอย่างน้อย 4 ราย กลายเป็นความหวาดวิตกครั้งใหม่ต่อบรรดาโรงไฟฟ้าปรมาณูทั่วภูมิภาค ซึ่งกำลังดิ้นรนผ่าวิกฤตนิวเคลียร์
พื้นที่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นโดยมากล้วนประสบปัญหากระแสไฟดับ ทำให้ระบบหล่อเย็นของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งหันไปใช้ระบบไฟฉุกเฉิน มิหนำซ้ำประชาชนกว่า 3.3 ล้านครัวเรือนต้องทนอาศัยอยู่ภายใต้ความมืดมิด หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ทั้งนี้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งสามยังคงเปิดใช้ระบบสำรองอยู่ในขณะนี้ ทว่า สิ่งที่ผู้คนจับตามอง คือ ความเสียหายของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งนี้ ท่ามกลางความพยายามควบคุมเตาปฏิกรณ์ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ อนึ่งก่อนหน้านี้สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ วัดระดับแรงสั่นสะเทือนได้ 7.4 ก่อนจะปรับลดลงเหลือ 7.1 ในเวลาต่อมา
สถานีข่าวเอ็นเอชเครายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนจากเหตุอาฟเตอร์ช็อกขนาด 7.4 เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มหาภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มีนาคม
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยสึนามิทันที พร้อมทั้งระบุว่าอาจเกิดคลื่นยักษ์ความสูง 2 เมตรซัดถล่มพื้นที่ส่วนใหญ่ตลอดแนวชายฝั่ง ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ในสภาพซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหวขนาด 9.0 เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม มีการประกาศยกเลิกการเตือนภัยสึนามิในอีก 83 นาทีต่อมา หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกเมื่อเวลา 23.32 น. (ตรงกับ 21.32 น.ตามเวลาประเทศไทย) แต่เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความอกสั่นขวัญหายให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างยิ่ง
นักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองคิตากามิ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวว่า ผู้คนจำนวนมากเข้าแถวรอซื้ออาหาร น้ำ และแบตเตอรี่กักตุนไว้ใช้ยามจำเป็น
สำนักบริหารจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติญี่ปุ่นเปิดเผยว่า สตรีวัย 63 ปีคนหนึ่งในจังหวัดยามางาตะเสียชีวิต เนื่องจากเครื่องช่วยหายใจของเธอไม่ทำงาน ขณะกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ด้านสถานีข่าวเอ็นเอชเคระบุว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายในจังหวัดมิยางิ เป็นชายวัย 79 ปี และ 85 ปี ขณะเดียวกันสำนักข่าวจิจิเพสพบว่า สตรีวัย 83 ปีอีกคนหนึ่งเสียชีวิตอีกในจังหวัดมิยางิเช่นกัน
นอกจากนี้ สำนักบริหารจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติญีปุ่นระบุเพิ่มเติมเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8) ว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 93 คน ส่วนสำนักข่าวจิจิเพรสรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บไว้ที่ 130 คน
สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองเซนไดไปทางตะวันออก 66 กิโลเมตร ใต้ทะลลึก 25.6 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ถึงกรุงโตเกียว จนอาคารหลายแห่งสั่นไหว แม้ตั้งอยู่ห่างออกไปกว่า 300 กิโลเมตร
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่เป็นการชั่วคราว บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เท็ปโก) แถลง พร้อมทั้งยืนยันว่า ภารกิจของเจ้าหน้าที่เท็ปโกยังคงดำเนินต่อไป แต่อาศัยการควบคุมจากระยะไกล นอกจากนี้โฆษกของเท็ปโกเสริมว่า “ไม่พบข้อมูลเฉพาะหน้าซึ่งระบุถึงความผิดปกติของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ”
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับคำยืนยันของเจ้าหน้าที่สำนักความปลอดภัยนิวเคลียร์ญี่ปุ่น ซึ่งระบุว่า “ไม่พบความผิดปกติจากหน้าจอมอนิเตอร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ … เรายังไม่พบปัญหาใดๆ ในการฉีดไนโตรเจน”
เจ้าหน้าที่จากสำนักความปลอดภัยนิวเคลียร์ญี่ปุ่นอธิบายว่า แหล่งจ่ายไฟภายนอกบางแห่งสำหรับระบบหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองโอนากาวะ จังหวัดมิยางิ และในเมืองรกกาโช และเมืองฮิงาชิโดริ ในจังหวัดอาโอโมริ ไม่สามารถใช้การได้ แต่ทุกโรงไฟฟ้ามีแหล่งไฟไฟ้าฉุกเฉินอย่างน้อย 1 ตัวยังคงทำงานอยู่
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับอาฟเตอร์ช็อกตามมานับร้อยๆ ครั้ง ตั้งแต่เกิดแผ่นดิไหว 9.0 เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 12,500 ราย และยังมีอีก 15,000 รายที่ยังไม่ทราบชะตากรรม
