เอเอฟพี - สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอฟเอเอ เตรียมสั่งตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 เก่าจำนวน 175 ลำทั่วโลก หลังเครื่องบินของสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ลำหนึ่งเกิดรอยแตกบนหลังคา ขณะบินอยู่กลางอากาศจนทำให้ต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน
เอฟเอเอแถลงว่า จะออกคำสั่งฉุกเฉินที่เรียกร้องให้ผู้ประกอบการเครื่องบินโบอิ้ง 737 รุ่นเก่าบางรุ่นให้ดำเนินการตรวจสอบด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเบื้องต้น และตรวจซ้ำอีกหลายครั้ง เพื่อหาความเสียหายจากการเสื่อมสภาพ
คำสั่งดังกล่าวมีผลเบื้องต้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 175 ลำทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นเครื่องบินที่ลงทะเบียนในสหรัฐฯ 80 ลำ และส่วนใหญ่ดำเนินการโดยสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลนส์ เอฟเอเอเสริม
ด้าน เรย์ ลาฮูด รัฐมนตรีคมนาคมสหรัฐฯ แถลงว่า ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง โดยเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ (1) ที่ผ่านมานั้นร้ายแรงมาก และอาจส่งทำให้ต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบครั้งนี้
ทั้งนี้ เซาท์เวสต์ แอร์ไลนส์เที่ยวบิน 812 ซึ่งออกเดินทางจากเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ไปยังเมืองแซคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมผู้โดยสาร และลูกเรือ 123 คน เกิดเหตุหลังคาแตกเป็นช่องโหว่ขณะบิน จนความดันภายในห้องโดยสารลดลงอย่างรวดเร็ว จนผู้โดยสารต้องคว้าหน้ากากออกซิเจนมาสวม และส่งข้อความถึงบุคคลที่รักกันอย่างจ้าละหวั่น
อย่างไรก็ดี เครื่องบินลำดังกล่าวร่อนลงจอดอย่างปลอดภัยที่ฐานทัพอากาศแอริโซนา โดยพบช่องโหว่บริเวณหลังคากว้างถึง 1.5 เมตร
ทางสายการบินเซาท์เวสต์จึงได้สั่งระงับการให้บริการเครื่องบินโบอิ้ง 737-300 จำนวน 79 ลำไว้ก่อน ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินไปหลายร้อยเที่ยวบินทีเดียว เพื่อตรวจสอบอาการพื้นผิวเสื่อมสภาพของเครื่องบินดังกล่าว
คำสั่งของเอฟเอเอจะกำหนดให้ตรวจสอบโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับพื้นที่เฉพาะบนลำตัวเครื่องบินของโบอิ้ง 737 ทั้งรุ่น 300 400 และ 500 ที่มีการบินสะสมมากกว่า 30,000 เที่ยวบิน
แรนดี แบ็บบิต ผู้บริหารของเอฟเอเอชี้ว่า การตรวจสอบดังกล่าวกำหนดขึ้นเพื่อตรวจหารอยแตก ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยการตรวจสอบทางสายตา โดยจำเป็นต้องมีการตรวจย้ำซ้ำหลายครั้งด้วย