เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ลี เมียงบัค แห่งเกาหลีใต้ ระบุ คำขอเจรจาของเกาหลีเหนือปราศจากซึ่งความจริงใจ พร้อมยืนกรานให้รัฐบาลเปียงยางขออภัยต่อการโจมตีเกาหลีใต้ทั้ง 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้วเสียก่อน
“พวกเขาต้องกล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำไปเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยมาว่ากัน” ลี แถลงต่อผู้สื่อมวลชน
“แต่ถ้าพวกเขาใช้วิธีข่มขู่, โจมตี, สังหาร แล้วรอให้เวลาผ่านไปค่อยมาพูดว่า 'เราน่าจะเจอและพูดคุยกันนะ' ผมว่านี่ไม่ใช่ความจริงใจ”
ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีทั้งสองเริ่มตึงเครียด ตั้งแต่เรือรบโชนันของเกาหลีใต้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโดจนอับปางเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว จนทำให้ลูกเรือเสียชีวิต 46 ราย ต่อมาในเดือนพฤศจิกายนเกาหลีเหนือยังยิงปืนใหญ่โจมตีเกาะยอนพยองบริเวณชายแดนเกาหลีใต้ ทำให้พลเรือนและนาวิกโยธินเสียชีวิตอีก 4 ราย
เกาหลีใต้เรียกร้องให้เปียงยางยอมรับคำตำหนิจากเหตุการณ์ทั้งสอง ก่อนที่จะเริ่มฟื้นสัมพันธ์อีกครั้ง แต่เกาหลีเหนือยืนกรานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจมเรือรบ ส่วนที่โจมตีเกาะชายแดนก็เพราะเกาหลีใต้เป็นฝ่ายยั่วยุก่อนด้วยการซ้อมรบทางทะเลใกล้น่านน้ำพิพาท
วานนี้(31) เกาหลีเหนือถึงขั้นเสนอให้ผู้นำเกาหลีใต้เลือกระหว่างการเจรจากับสงคราม ซึ่งกรุงโซลก็ได้โต้ตอบไปว่า ยินดีเจรจาเสมอหากเกาหลีเหนือต้องการ แต่จะต้องขออภัยต่อความผิดที่แล้วมาเสียก่อน พร้อมขู่จะลงโทษอย่างรุนแรงหากมีการโจมตีเกิดขึ้นอีก
ลี ซึ่งเป็นนักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมและอดีตผู้บริหารโครงการก่อสร้าง ได้ก่อความเจ็บแค้นแก่เกาหลีเหนือ โดยยกเลิกความช่วยเหลือที่ผู้นำหัวเสรีคนก่อนๆเคยหยิบยื่นแก่กรุงเปียงยาง พร้อมยื่นเงื่อนไขให้เกาหลีเหนือต้องยุติโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมด เพื่อแลกกับความช่วยเหลือที่จำเป็น
หลังจากที่เกาะยอนพยองถูกโจมตี เกาหลีใต้จึงพยายามเสริมกำลังป้องกันชายแดนบริเวณทะเลเหลือง และดำเนินการปฏิรูปเพื่อให้เกิดบูรณภาพในการปฏิบัติงานระหว่างทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ และหน่วยป้องกันทางทะเล
ที่ผ่านมาเคยมีเสียงตำหนิกองทัพเกาหลีใต้ว่าตอบโต้การโจมตีเกาะยอนพยองไม่รุนแรงพอ ขณะที่นายพลเกษียณอายุกลุ่มหนึ่งก็ไม่เห็นด้วยกับความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้กองทัพอ่อนแอลง
อย่างไรก็ตาม ลี ยังคงหวังว่าการปฏิรูปจะสำเร็จลงภายในสิ้นปีนี้
“เราควรปฏิรูปกองทัพเสียใหม่ และแต่ละหน่วยงานก็ควรลดทัศนคติที่เห็นแก่ตัวลงบ้าง” ลี กล่าว
