ชาวอังกฤษเกิน ‘แสน’ เดินขบวนประท้วง ‘มาตรการรัดเข็มขัด’ กลางกรุงลอนดอน

เอเอฟพี - ผู้ประท้วงชาวอังกฤษกว่าแสนคนรวมพลกันกลางกรุงลอนดอน ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ วันนี้ (26) เพื่อเดินขบวน และแสดงพลังคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดสุดเข้มงวดของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายพันคนประจำการในพื้นที่ชุมนุม ท่ามกลางความวิตก ว่า อาจบานปลายกลายเป็นเหตุรุนแรง ซ้ำรอยการประท้วงของนักศึกษาเมื่อปีที่แล้ว

แกนนำการชุมนุมจากสหภาพแรงงานกลุ่มต่างๆ พากันคาด ว่า จะมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวร่วมเดินขบวนมากกว่า 100,000 คน เพื่อคัดค้านมาตรการตัดลดงบประมาณ ของรัฐบาลผสมพรรคคอนเซอร์เวทีฟ-ลิเบอรัล เดโมแครต แม้นโยบายนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลของอังกฤษก็ตาม

ด้าน ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด เปิดเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ประมาณ 4,500 คน เข้าประจำการตามทางที่ผู้ชุมนุมจะเดินขบวนผ่าน หลังจากเมื่อช่วงปลายปี 2010 อังกฤษเคยเกิดเหตุความไม่สงบจากการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา ซึ่งไม่พอใจนโยบายการปรับค่าเทอมขึ้น 3 เท่า ตามแผนลดงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐ

การเดินขบวนวันนี้มีกลุ่มครู อาจารย์ พยาบาล และพนักงานข้าราชการส่วนอื่นๆ เป็นกำลังหลักในการเดินขบวน และยังได้กลุ่มนักศึกษา และผู้รับเงินบำนาญ เข้าร่วมขบวนประท้วงด้วย โดยคาดกันว่า มหกรรมประท้วงรัฐบาลอังกฤษนี้จะทำให้ศูนย์กลางกรุงลอนดอนกลายเป็นอัมพาต ไม่สามารถสัญจรไปมาได้

ทั้งนี้ หลังจากเข้าบริหารประเทศ รัฐบาลผสมพรรคคอนเซอร์เวทีฟ-ลิเบอรัล เดโมแครต ชุดนี้ได้ประกาศแผนลดรายจ่ายของภาครัฐจำนวน 81,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4 ล้านล้านบาท) ภายใน 5 ปี เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณของประเทศ ซึ่งรัฐบาลเดวิด คาเมรอน ปรามาสว่า เป็นมรดกตกทอดมาจากรัฐบาลพรรคเลเบอร์ ชุดก่อน

เบรนดัน บาร์เบอร์ แกนนำสภาสหภาพแรงงานอังกฤษ ประกาศว่า การเดินขบวนวันนี้จะเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีที่สหภาพแรงงานเคยเข้าร่วม

“เราจะได้เห็นผู้คนออกมามากกว่า 100,000 คนอย่างแน่นอน และตัวเลขจริงๆ อาจเลยหนึ่งแสนไปมาก” บาร์เบอร์ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุของบีบีซี อย่างไรก็ตาม ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีศึกษาธิการอังกฤษ ยืนกรานว่า การประท้วงไม่อาจเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลได้

หนังสือพิมพ์อังกฤษหลายฉบับรายงาน ว่า อาจมีผู้ประท้วงประมาณ 250,000 - 300,000 คน ร่วมเดินขบวน ซึ่งจะทำให้เหตุการณ์วันนี้เป็นการชุมนุมกลางเมืองหลวงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่การเดินขบวนของประชาชนประมาณ 1 ล้านคน เพื่อต่อต้านสงครามอิรัก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2003

บาร์เบอร์ ระบุว่า สหภาพแรงงานจะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคอยดูแลกลุ่มผู้ประท้วงให้อยู่ในความสงบ เพราะไม่ต้องการให้เหตุความวุ่นวายอื่นๆ เบี่ยงเบนประเด็นข้อเรียกร้องของกลุ่มสหภาพแรงงาน

การเดินขบวนจะเริ่มจากริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ ผ่านอาคารัฐสภา และที่พำนักของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน บนถนนดาวนิง และสิ้นสุดขบวนที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก