เอเอฟพี - แม้สหรัฐฯ ยอมหลีกทางให้นาโตเข้าบัญชาปฏิบัติการกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบีย วานนี้ (24) แต่กองกำลังจำนวนมหาศาลของกองทัพอเมริกันก็ยังคงเป็นกำลังหลักสนับสนุนการโจมตีของกองทัพพันธมิตรชาติตะวันตก
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งถูกรีพับลิกันโจมตีกรณีที่กระโจนเข้าสู่สงครามโดยไม่มียุทธศาสตร์ทางออก (exit strategy) ที่ชัดเจน กำลังต้องการถ่ายโอนการบัญชาการรบให้กับพันธมิตรยุโรป และอาหรับให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯ ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ว่า อเมริกันชนจะได้อะไรจากโลกอาหรับ โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์ความไม่สงบได้ขจรขจายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ มิหนำซ้ำสหรัฐฯ ยังคงชอกช้ำจากความเสียหายที่อดีตประธานาธิบดีคนก่อนก่อไว้จากการรุกรานอิรัก
ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาชื่นชมการตัดสินใจเข้ารับภารกิจควบคุมน่านฟ้าลิเบีย ภายใต้การกำหนดเขตห้ามบินของนาโต รมต.คลินตัน ยังบอกเป็นนัยถึงข้อตกลงที่กองทัพนาโตจะรับผิดชอบปฏิบัติการรบมากยิ่งกว่านี้
“เราตกลง พร้อมด้วยชาติพันธมิตรนาโตที่จะส่งมอบการบัญชาการ และการควบคุมเขตห้ามบินในลิเบียให้กับกองกำลังนาโต ขณะนี้ชาติสมาชิกทั้ง 28 ชาติของนาโตมีอำนาจเด็ดขาดในการขยายปฏิบัติการ เพื่อรองรับภารกิจป้องกันพลเรือนในวงกว้าง ตามมติที่ 1973” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตุรกีชาติมุสลิมเพียงหนึ่งเดียวในนาโตได้ขัดขวางการอนุมัติแผนโจมตีทางอากาศ ส่วน แอนเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโต ก็ได้เสนอให้มีการประชุมเพิ่มเติมช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า “ในขณะนี้ ยังคงมีทั้งปฏิบัติการของกองกำลังพันธมิตรตะวันตก และปฏิบัติการของนาโต”
พล.ร.ท. บิล กอร์ตนีย์ แห่งกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า “เพนตากอนกำลังทำงานด้านการทหารอย่างหนัก เพื่อให้สามารถถ่ายโอนหน้าที่การนำปฏิบัติการครั้งนี้แก่กองบัญชาการร่วมอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้”
ตั้งแต่เครื่องบินเจ็ตของฝรั่งเศสเปิดฉากโจมตีขบวนรถถังของกองทัพกัดดาฟี ก่อนที่เรือรบ และเรือดำน้ำของสหรัฐฯ และอังกฤษจะยิงโทมาฮอว์กถล่มลิเบีย ระหว่างการโจมตีวันแรก วันนี้กองทัพพันธมิตรตะวันตกยังมีชาติอื่นร่วมด้วยอีก 12 ประเทศ
ทั้งนี้ เครื่องบินรบมากกว่าครึ่งหนึ่งในจำนวน 350 ลำที่ร่วมสงครามเป็นของสหรัฐฯ แต่ พล.ร.ท. บิล กอร์ตนีย์ อธิบายว่า เมื่อ 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ประเทศพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการเหนื่อน่านฟ้าลิเบียประมาณครั้งหนึ่ง จากการโจมตีทั้งหมด 130 เที่ยวบินของกองทัพนานาชาติ
นอกจากนี้ เหนือน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรือดำน้ำ เรือพิฆาต จำนวนมาก อีกทั้งเรือธง ยูเอสเอส เมาต์วิตนีย์ ฝูงบินตรวจการณ์ และเครื่องบินขับไล่ สหรัฐฯ ก็ยังคงเป็นกำลังรบหลักของนาโต และห้องเครื่องสำคัญสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งถูกรีพับลิกันโจมตีกรณีที่กระโจนเข้าสู่สงครามโดยไม่มียุทธศาสตร์ทางออก (exit strategy) ที่ชัดเจน กำลังต้องการถ่ายโอนการบัญชาการรบให้กับพันธมิตรยุโรป และอาหรับให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯ ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ว่า อเมริกันชนจะได้อะไรจากโลกอาหรับ โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์ความไม่สงบได้ขจรขจายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ มิหนำซ้ำสหรัฐฯ ยังคงชอกช้ำจากความเสียหายที่อดีตประธานาธิบดีคนก่อนก่อไว้จากการรุกรานอิรัก
ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาชื่นชมการตัดสินใจเข้ารับภารกิจควบคุมน่านฟ้าลิเบีย ภายใต้การกำหนดเขตห้ามบินของนาโต รมต.คลินตัน ยังบอกเป็นนัยถึงข้อตกลงที่กองทัพนาโตจะรับผิดชอบปฏิบัติการรบมากยิ่งกว่านี้
“เราตกลง พร้อมด้วยชาติพันธมิตรนาโตที่จะส่งมอบการบัญชาการ และการควบคุมเขตห้ามบินในลิเบียให้กับกองกำลังนาโต ขณะนี้ชาติสมาชิกทั้ง 28 ชาติของนาโตมีอำนาจเด็ดขาดในการขยายปฏิบัติการ เพื่อรองรับภารกิจป้องกันพลเรือนในวงกว้าง ตามมติที่ 1973” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตุรกีชาติมุสลิมเพียงหนึ่งเดียวในนาโตได้ขัดขวางการอนุมัติแผนโจมตีทางอากาศ ส่วน แอนเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโต ก็ได้เสนอให้มีการประชุมเพิ่มเติมช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า “ในขณะนี้ ยังคงมีทั้งปฏิบัติการของกองกำลังพันธมิตรตะวันตก และปฏิบัติการของนาโต”
พล.ร.ท. บิล กอร์ตนีย์ แห่งกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า “เพนตากอนกำลังทำงานด้านการทหารอย่างหนัก เพื่อให้สามารถถ่ายโอนหน้าที่การนำปฏิบัติการครั้งนี้แก่กองบัญชาการร่วมอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้”
ตั้งแต่เครื่องบินเจ็ตของฝรั่งเศสเปิดฉากโจมตีขบวนรถถังของกองทัพกัดดาฟี ก่อนที่เรือรบ และเรือดำน้ำของสหรัฐฯ และอังกฤษจะยิงโทมาฮอว์กถล่มลิเบีย ระหว่างการโจมตีวันแรก วันนี้กองทัพพันธมิตรตะวันตกยังมีชาติอื่นร่วมด้วยอีก 12 ประเทศ
ทั้งนี้ เครื่องบินรบมากกว่าครึ่งหนึ่งในจำนวน 350 ลำที่ร่วมสงครามเป็นของสหรัฐฯ แต่ พล.ร.ท. บิล กอร์ตนีย์ อธิบายว่า เมื่อ 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ประเทศพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการเหนื่อน่านฟ้าลิเบียประมาณครั้งหนึ่ง จากการโจมตีทั้งหมด 130 เที่ยวบินของกองทัพนานาชาติ
นอกจากนี้ เหนือน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรือดำน้ำ เรือพิฆาต จำนวนมาก อีกทั้งเรือธง ยูเอสเอส เมาต์วิตนีย์ ฝูงบินตรวจการณ์ และเครื่องบินขับไล่ สหรัฐฯ ก็ยังคงเป็นกำลังรบหลักของนาโต และห้องเครื่องสำคัญสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้
