เอเอฟพี - ญี่ปุ่นผวาตัวเลขจากแผ่นดินไหวและสึนามิอาจสูงลิ่ว หลังยังไม่พบตัวชาวบ้านราว 10,000 คน ของมินามิซานริคุ เมืองชายทะเล ในจังหวัดมิยางิ แถมยังต้องวิตกกับเหตุโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ซึ่งล่าสุดตรวจพบประชาชน 3 ราย สัมผัสสารกัมมันตรังสีอันตราย
ขณะที่คนงานดับเพลิงอันลุกไหม้ ณ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วยน้ำทะเลในความพยายามหลบหลีกหายนะอันเลวร้าย นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยอมรับว่าความโกลาหล จากฤทธิ์ของแผ่นดินไหวระดับ 8.9 เมื่อวันศุกร์ (11) คือมหันภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
แรงเขย่าของแผ่นดินไหวระดับ 8.9 ซึ่งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่มีการจดบันทึกมา ก่อคลื่นยักษ์ขนาดมหึมาซัดถล่มหลายจังหวัดบนเกาะฮอนชู และกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางมันจนวินาศสันตะโร
ทั้งนี้ แม้รายงานล่าสุดยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 703 ราย อย่างไรก็ตาม ทางสำนักข่าวเอ็นเอชเค ระบุมีความกังวลต่อตัวเลขอาจสูงกว่านี้มาก หลังจากยังไม่พบตัวชาวบ้านอีกราว 10,000 คน ของเมืองมินามิซานริคุ เมืองชายทะเล ในเขตจังหวัดมิยางิ นับเป็นกว่าครึ่งของประชากรทั้งหมด 17,800 คนในเมืองแห่งนี้
ท่ามกลางความพยายามประเมินขอบเขตความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้ ญี่ปุ่นยังต้องเผชิญกับความวิตกต่อวิกฤติการณ์ด้านนิวเคลียร์ ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนในระยะยาว หลังระบบหล่อเย็นของโรงงาน 2 แห่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว
กลุ่มควันลอยพวยพุ่งออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ หมายเลข 1 ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 250 กิโลเมตร หลังจากเกิดระเบิด และรัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินทางนิวเคลียร์พร้อมอพยพประชาชนที่อยู่ในรัศมี 20 กิโลเมตรออกมา
สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานโดยอ้างหน่วยงานด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์บอกว่าตรวจพบตรวจพบสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลบริเวณพื้นที่ใกล้โรงงาน และเมื่อวันเสาร์ (12) สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคระบุว่าพบสารกัมมันตรังสีในชาวบ้าน 3 รายที่อพยพออกจากพื้นที่รอบโรงงาน โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบทั้ง 3 คน ระหว่างสุ่มตรวจคนไข้ราว 90 คนที่ถูกเคลื่อนย้ายมายังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองฟูตาบะมาชิ
ทั้งนี้ คนไข้เหล่านั้นต้องนอนรอคอยความช่วยเหลือ ณ สนามหญ้าของโรงเรียนแห่งหนึ่งอันเป็นที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน และถูกเคลื่อนย้ายจากพื้นที่เสี่ยงด้วยเฮลิคอปเตอร์ในช่วงเวลาที่เกิดระเบิด ณ โรงงานฟุกุชิมะ จึงสันนิษฐานว่าทั้ง 3 คนอาจสัมผัสกับสารกัมมันตรังสีในตอนนั้นเอง
คลื่นขนาดมหึมาจากแผ่นดินไหวซัดกวาดหมู่บ้านและเมืองต่างๆตามชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือพังพินาศ โดยตำรวจรายงานว่าพบศพผู้เสียชีวิตราว 200-300 ศพที่เมืองเซนได เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคระบุคำสัมภาษณ์ของทหารบอกว่าสามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตได้อีกราว 300-400 ศพที่เมืองริกูเซนทากาตะ ที่ได้รับความเสียหายแทบทั้งเมือง
โฆษกของนายกรัฐมนตรีเชื่อว่ามีประชาชนอย่างน้อย 1,000 ราย ที่สูญเสียชีวิตในภัยพิบัตินี้ ส่วนตำรวจบอกว่ามีชาวบ้านกว่า 215,000 คน ที่ต้องอพยพมาพักอาศัยในสถานที่พักพิงชั่วคราว