เอเอฟพี - นักเคลื่อนไหวฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย ชุมนุมหน้าสถานทูตสหรัฐฯประจำบาห์เรนเมื่อวันจันทร์(7) เรียกร้องวอชิงตันกดดันทางการสำหรับปฏิรูปประชาธิปไตยภายในประเทศ หลังจากเดินขบวนประท้วงต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์
รายงานข่าวระบุว่านักเคลื่อนไหวหลายสิบคนรวมตัวกันบริเวณรั้วด้านหน้าของสถานทูตพร้อมตะโกนเป็นภาษาอังกฤษต่อต้านระบอบกษัตริย์ ขณะเดียวกันบางส่วนก็ตะโกนเป็นภาษาอาหรับว่า "ประชาชนต้องการโค่นล้มการปกครอง"
ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ที่มีประชากรราว 1.2 ล้านคนและปกครองโดยราชวงศ์อัล-คาลิฟา มานานกว่า 200 ปั ถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์สำคัญของอเมริกาและเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือที่ 5 ของสหรัฐฯ
เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แสดงท่าทีสนับสนุนให้เปิดเจรจาระดับชาติภายในบาห์เรน และบอกว่ามันควรเป็นไปอย่าง "ครอบคลุม ไม่แบ่งแยก และตอบสนองความต้องการของประชาชน"
ถ้อยแถลงของโอบามา มีขึ้นหนึ่งวันหลังกษัตริย์ฮามาด บิน อิสซา อัล-คอลีฟา ปรับคณะรัฐมนตรี หลังจากก่อนหน้านั้นทรงพระราชทานอภัยโทษนักเคลื่อนไหวชาวชีอะห์ขานรับต่อการชุมนุม
อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมประท้วงที่มารวมตัวกัน ณ สถานทูต แสดงความข้องใจว่าการเจรจาจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมได้จริงหรือไม่ และใครจะเป็นผู้รับประกันว่าแต่ละฝ่ายจะปฏิบัติตามสัญญา
ผู้ชุมนุมได้ส่งมองหนังสือแก่เจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ โดยในเนื้อหานั้นเรียกร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ยับยั้งจุดยืนทางลบใดๆของการเจรจาที่สนับสนุนการกดขี่และข่มเหงประชาชนชาวบาห์เรน
ทั้งนี้การประท้วงเรียกร้องเปลี่ยนระบอบการปกครองในชาติที่มีชาวชีอะห์เป็นชนกลุ่มใหญ่แต่ปกครองโดยราชวงศ์สุหนี่ เข้าสู่วันที่ 22 แล้วเมื่อวันจันทร์(7)ท่ามกลางการชุมนุมขับไล่รัฐบาลในหลายๆประเทศในภูมิภาคเดียวกัน จนนำไปสู่การโค่นล้มประธานาธิบดีอียิปต์และตูนิเซีย
แต่แกนนำผู้ชุมนุมที่นำโดยกลุ่มชีอะห์มีจุดยืนที่เป็นทางสายกลางมากกว่า ลดระดับการเรียกร้องเหลือเพียงขอให้มีการปฏิรูปการปกครองครั้งใหญ่เช่นมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและมีระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ พร้อมกับขอให้รัฐบาลลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุสังหารผู้ประท้วงไปหลา