เอเอฟพี - โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าววานนี้ (1) ว่า การประท้วงที่ลุกลามไปทั่วโลกอาหรับจะช่วยยับยั้งกิจกรรมของกลุ่มอัลกออิดะห์และอิหร่าน เพราะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตย
“มันทำให้คนได้รู้ว่า คำกล่าวอ้างของอัลกออิดะห์ที่ว่ารัฐบาลเผด็จการจะต้องถูกโค่นล้มด้วยความรุนแรงสุดโต่ง ไม่เป็นความจริง” เกตส์ ให้สัมภาษณ์
การเคลื่อนไหวของประชาชนรากหญ้านอกจากจะล้มระบอบการปกครองในตูนิเซียและอียิปต์ และก่อให้เกิดการปฏิรูปในอีกหลายประเทศแล้ว ยังเป็นอุปสรรคขัดขวางกลุ่มอัลกออิดะห์ได้เป็นอย่างดี เกตส์ กล่าว
เกตส์ ซึ่งเป็นอดีตนักวิเคราะห์ข่าวกรองและอดีตผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับกลาง (ซีไอเอ) ระบุว่า ตัวอย่างการชุมนุมประท้วงอย่างสันติในอาหรับ ยังสร้างความสุ่มเสี่ยงให้แก่รัฐบาลอิหร่านในระยะยาว
“ทั้งนี้ก็เพราะว่า พฤติกรรมของทหารอียิปต์, ตูนิเซีย และบาห์เรน ซึ่งแม้จะเคยใช้ความรุนแรงบ้าง แต่ก็แตกต่างจากอิหร่าน ที่พร้อมจะใช้วิธีป่าเถื่อนปราบปรามใครก็ตามที่กล้าลุกขึ้นประท้วงรัฐบาล” เกตส์อธิบาย
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ตนมองความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในแง่ดี และแม้อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีกว่าจะเห็นผลที่เป็นรูปธรรม แต่กระบวนการเปลี่ยนแปลงก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว หลังจากที่การเมืองในโลกอาหรับถูกแช่แข็งมานานหลายทศวรรษ
หากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภูมิภาคนี้สามารถเกิดขึ้นโดยปราศจากความรุนแรง และทำให้ประชาธิปไตยเบ่งบานได้ “ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย” เกตส์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โอกาสที่กระแสการประท้วงจะลุกลามไปถึงชาติพันธมิตรของสหรัฐฯอย่าง ซาอุดีอาระเบีย และจอร์แดน มีมากน้อยเพียงใด เกตส์ให้คำตอบว่า ผลประโยชน์ของสหรัฐฯจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
“แน่นอนว่า เรามีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นและยาวนานกับทั้ง 2 ประเทศ” เกตส์ระบุ
“กษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์ทรงปฏิรูปประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปมานานแล้ว ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องดำเนินต่อไป และเราก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่”
ด้าน พล.ร.อ.ไมค์ มุลเลน ประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯ ซึ่งร่วมแถลงข่าวพร้อมกับ เกตส์ ระบุว่า “นี่เป็นสัญญาณที่จะบั่นทอนยุทธศาสตร์ของอัลกออิดะห์อย่างสิ้นเชิง”
พล.อ.เจมส์ แม็ตทิส หัวหน้าศูนย์บัญชาการกลางสหรัฐฯ ก็เคยให้ความเห็นเช่นกันว่า อัลกออิดะห์กำลังถูกโจมตีอย่างหนักด้วยกระแสโฆษณาชวนเชื่อ
“ความเปลี่ยนแปลงที่ถูกกระตุ้นโดยแนวคิดประชานิยมซึ่งกำลังเกิดขึ้นทั่วภูมิภาคอาหรับ ส่งผลให้สารของอัลกออิดะห์และกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ ถูกล้มไป และทำให้คนมองเห็นว่า ปรัชญาอันล่มจมของกลุ่มก่อการร้ายไม่ได้ให้อะไรเลย นอกจากทำลายผู้บริสุทธิ์” แม็ตทิสกล่าว
“คนหนุ่มสาวสมัยนี้ได้ความเปลี่ยนแปลงภายใน 10 สัปดาห์ มากกว่าที่ได้จากการเข่นฆ่าตามคำสอนของอัลกออิดะห์ในเวลา 10 ปีเสียอีก”