เอเจนซีส์ - รัฐบาลเกาหลีใต้สั่งให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าในส่วนที่ไม่จำเป็น หลังปัญหาทางการเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น เจ้าหน้าที่เผยวันนี้(28)
แถลงการณ์จากกระทรวงเศรษฐกิจฐานความรู้ ระบุให้ไฟส่องสว่างบริเวณสะพาน, อาคารพาณิชย์, ที่พักอาศัย และอาคารขนาดใหญ่อื่นๆ ต้องถูกปิดหลังเที่ยงคืน เช่นเดียวกับป้ายโฆษณาและป้ายไฟร้านค้าต่างๆ
ธุรกิจบันเทิงจะต้องปิดไฟนอกอาคารหลัง 2.00 น.เป็นต้นไป ส่วนสถานีบริการน้ำมันถูกขอร้องให้งดเปิดไฟในเวลากลางวัน
หลังช่วงผ่อนผัน 7 วันแรก ผู้ฝ่าฝืนจะต้องเสียค่าปรับสูงสุดถึง 3 ล้านวอน (ประมาณ 81,000 บาท)
กระทรวงเศรษฐกิจฐานความรู้ ยังขอร้องให้พนักงานบริษัทต่างๆจอดรถไว้ที่บ้านอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ด้วย
“มาตรการนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น โดยให้เกิดความลำบากแก่ประชาชนและธุรกิจต่างๆน้อยที่สุด” แถลงการณ์กระทรวง ระบุ
กระทรวงเศรษฐกิจฐานความรู้เพิ่มระดับคำเตือนวิกฤตพลังงาน หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบพุ่งสูงเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลติดต่อกันเกิน 5 วัน
ราคาน้ำมันดิบโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นผลจากกระแสการประท้วงที่ลุกลามไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โดยล่าสุดผู้นำลิเบียยังคงพยายามยื้ออำนาจ ขณะที่ประธานาธิบดีตูนิเซียและอียิปต์ต้องยอมพ่ายแพ้ต่อพลังประชาชนไปก่อนหน้านี้
เกาหลีใต้ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดจากต่างประเทศ
ปีที่แล้วเกาหลีใต้เป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก โดยมีปริมาณการนำเข้าถึง 872 ล้านบาร์เรล ซึ่งร้อยละ 82 มาจากตะวันออกกลาง