เอเอฟพี - สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) รายงานว่า มีผู้อพยพลี้ภัยออกจากลิเบียแล้วถึงเกือบ 100,000 คนในช่วงตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพชาวต่างชาติ ขณะที่องค์การกาชาดสากล ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า มีประชาชนมากกว่า 10,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอียิปต์ได้ลี้ภัยเข้ามายังพรมแดนตูนิเซียในวันเสาร์ (26)
ทางด้านรัฐบาลทั่วโลกก็กำลังเร่งประสานงานกับประเทศละแวกใกล้เคียงลิเบียเพื่อขอให้ช่วยอพยพพลเรือนของตนออกจากประเทศดังกล่าวโดยเร็วที่สุด โดยที่บางชาติก็ได้ส่งทั้งเครื่องบินและเรือมารับด้วยตนเอง และมีรายงานล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27) ว่า เรือขนผู้อพยพของกรีซได้นำผู้ลี้ภัยจำนวน 4,600 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ออกมาจากลิเบียได้อย่างปลอดภัย
ส่วนชาวอินเดียกลุ่มแรกที่ลี้ภัยจากลิเบียก็ได้เดินทางถึงมาตุภูมิเมื่อวานนี้ (27) ขณะที่รัฐบาลกรุงนิวเดลีวางแผนจะส่งเที่ยวบินรายวันไปยังลิเบีย เพื่อรับตัวพลเรือนอีกหลายพันคนที่ยังคงติดค้างในประเทศที่กำลังคุกรุ่นด้วยสงครามกลางเมือง
“การที่หลบหนีมาได้นี้ทำให้ผมรู้สึกราวกับได้ขึ้นสวรรค์” มูฮัมเหม็ด ซาลี นักวิศวกรวัย 63 ปี กล่าว
“มีชายคนหนึ่งเข้ามาและเอามีดจี้คอผม เขาเอาทรัพย์สินของผมไปจนเกลี้ยง ทั้งแล็ปท็อป, สายโซ่ แม้แต่รถยนต์”
“ผมได้ยินเสียงปืนทุกวัน... ประชาชนจำเป็นต้องหนีโดยที่ไม่มีอาหารและน้ำถึง 3 หรือ 4 วัน ขณะที่สถานการณ์ที่นั่นเลวร้าย ผู้คนยังเกลื่อนอยู่บนถนน... สถานีตำรวจหลายแห่งถูกเผาวอด ที่นั่นไม่มีความปลอดภัย เพราะไม่มีตำรวจ” เขา เล่า