xs
xsm
sm
md
lg

Focus: กลุ่มสิทธิมนุษย์ห่วงอนาคตเด็กที่เกิดจาก “สาวญวนอุ้มบุญ” ในไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข
เอเอฟพี - ชะตากรรมของทารกในครรภ์ทั้ง 9 รายยังไม่แน่นอน เมื่อรัฐบาลไทยยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะจัดการอย่างไรกับทารกที่เกิดจากหญิงชาวเวียดนาม ซึ่งถูกช่วยเหลือออกจากบริษัทรับอุ้มบุญผิดกฎหมายในกรุงเทพมหานครเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อวันพุธ (23) ที่ผ่านมา ตำรวจได้บุกทลายบริษัทรับตั้งครรภ์ผิดกฎหมายย่านมีนบุรี และช่วยเหลือหญิงชาวเวียดนาม 14 คนที่ถูกใช้เป็นแม่อุ้มบุญให้แก่ชาวต่างชาติที่ร่ำรวยแต่ไม่มีบุตร โดยหญิงราวครึ่งหนึ่งอยู่ระหว่างตั้งครรภ์

กลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิเด็กต่างกังวลเกี่ยวกับอนาคตของทารกซึ่งเกิดจากมารดาที่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด และอาจต้องเผชิญปัญหาด้านสัญชาติ เนื่องจากไทยยังไม่มีแนวทางจัดการปัญหาการอุ้มบุญ ที่เกิดขึ้นหลายรูปแบบในปัจจุบัน

“เด็กเหล่านั้นอาจกลายเป็นคนไร้สัญชาติ และไม่ได้เป็นพลเมืองของชาติใดเลย” เบเนดิกต์ ฟิลลิปส์ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์ขององค์การเซฟเดอะชิลเดรน ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าว

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงบริษัทค้ามนุษย์ที่ใช้ชื่อ “เบบี้ 101” ว่า เป็นบริษัทผิดกฎหมายที่ไร้มนุษยธรรม และเปิดเผยว่า หญิงเวียดนามบางคนยังถูกข่มขืนด้วย

ตำรวจได้จับกุมชาวไต้หวัน 4 คน, ชาวจีน 1 คน และชาวพม่าอีก 3 คนที่ร่วมกันเปิดบริษัทดังกล่าว พร้อมระบุว่า หญิงอุ้มบุญจะได้รับเงินค่าจ้างคนละ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่บางคนถูกล่อลวงให้เข้ามาร่วมขบวนการโดยไม่เจตนา

การอุ้มบุญในประเทศไทยสามารถกระทำได้โดยใช้บุคคลที่เป็นญาติ และต้องไม่เป็นการว่าจ้าง

ฟิล โรเบิร์ตสัน จากองค์การพิทักษ์สิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์ ระบุว่า แม้ไทยจะมีระบบสังคมสงเคราะห์ที่ดีมาก แต่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายก็ควรได้รับโอกาสตัดสินอนาคตของตนเอง

“หญิงเหล่านั้นควรมีเวลาฟื้นฟูสภาพจิตใจ และพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป พวกเธออาจไม่ต้องการกลับประเทศไปพร้อมกับอีกชีวิตหนึ่งที่ต้องเลี้ยงดูก็ได้” โรเบิร์ตสันกล่าว

พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ ผกก.2 สส. สตม. ระบุว่า จากการประชุมเจ้าหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันศุกร์ (25) ที่ผ่านมา ไทยเห็นว่าควรส่งหญิงเวียดนามเหล่านี้กลับประเทศพร้อมกับเด็กในครรภ์ โดยจะมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่เวียดนามในวันพรุ่งนี้ (28)

“เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กเหล่านี้ไม่มีความผูกพันทางสายเลือดกับมารดา เราจำเป็นต้องตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจะต้องหารือกับสถานทูตเวียดนามก่อน” พ.ต.อ.เฉลิมพลกล่าว

ฟิลลิปส์กล่าวว่า แม้ไทยจะพยายามช่วยเหลือลูกหลานของผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แต่เด็กเหล่านี้ก็ยังไม่ได้สัญชาติไทย และไม่ได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาล

“นี่คือตัวอย่างร้ายแรงที่เกิดกับผู้อพยพ ซึ่งหลบหนีความอดอยากยากจน แต่กลับพบว่าตนเองไม่ได้รับการปกป้องจากกฎหมาย” ฟิลลิปส์ระบุ

ภาพหญิงสาวราว 40 คนที่ระบุเพียงหมายเลขกำกับ ปรากฎบนเว็บไซต์ www.baby-1001.com ของบริษัท เบบี้-101 ซึ่งให้บริการตั้งแต่จำหน่ายไข่และสเปิร์มไปจนถึงการอุ้มบุญด้วยราคา 32,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวไต้หวัน

บริษัทดังกล่าวมีสำนักงานทั้งในกรุงเทพฯ, พนมเปญ และ เวียดนาม

“รัฐบาลของทั้ง 4 ประเทศควรร่วมมือกันกวาดล้างขบวนการนี้” โรเบิร์ตสันกล่าว

สำนักงานสอบสวนคดีอาชญากรรมของไต้หวันยังไม่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาลไทย เมื่อสำนักข่าวเอเอฟพีทำการสัมภาษณ์

การอุ้มบุญถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไต้หวัน แต่มีรายงานว่าชายไต้หวันจำนวนหนึ่งว่าจ้างหญิงต่างชาติให้ตั้งครรภ์บุตรของตน
กำลังโหลดความคิดเห็น