เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯต่อโทรศัพท์สายตรงถึงมกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรนวานนี้(19) เพื่อขอให้ทรงเคารพสิทธิมนุษยชน และดำเนินการปฏิรูปการเมืองอย่างมีนัยยะสำคัญเพื่อยุติการประท้วง ทำเนียบขาวเผย
ทอม โดนิลอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ ได้สนทนากับมกุฎราชกุมาร ซัลมาน บิน ฮามาด อัล-คอลีฟา แห่งบาห์เรนทางโทรศัพท์ หลังจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา กล่าวประณามการปรามปรามผู้ประท้วงในบาห์เรนอย่างรุนแรงเพียง 1 วัน
“โดนิลอน ได้ย้ำคำประณามของประธานาธิบดีเกี่ยวกับการใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมโดยสันติ และแสดงการสนับสนุนนโยบายที่องค์มกุฎราชกุมารทรงมีคำสั่งใช้ เพื่อยับยั้งความรุนแรงและเปิดทางเจรจา” แถลงการณ์ทำเนียบขาว ระบุ
ก่อนหน้านี้ ตำรวจและทหารได้ออกจากที่ชุมนุมบริเวณจตุรัสเพิร์ลในกรุงมานามา เพื่อเป็นการโอนอ่อนแก่ผู้ชุมนุม ภายหลังมกุฎราชกุมารยังทรงสั่งให้เจ้าหน้าความมั่นคงอยู่ห่างจากผู้ประท้วง และขอร้องให้พวกเขาเดินทางกลับบ้าน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนทางการเมืองที่ทุกฝ่ายจะมีส่วนร่วม สำนักข่าว บีเอ็นเอ ของบาห์เรนรายงาน
บาเรนห์ซึ่งเป็นพันธมิตรกับโลกตะวันตก และมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอ่าวอาหรับ ต้องเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มฝ่ายค้านชีอะห์ที่เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก ก่อนที่จะยอมเจรจากับพระราชวงศ์
“ในฐานะประเทศพันธมิตรที่ยาวนานของบาห์เรน สหรัฐฯเชื่อว่าความมั่นคงภายในบาห์เรนจะต้องมาจากการเคารพสิทธิพลเมือง และการปฏิรูปอย่างมีนัยยะสำคัญที่ตอบสนองความคาดหวังของชาวบาห์เรนทุกกลุ่ม” แถลงการณ์ทำเนียบขาว ระบุ
วานนี้(19) แคทเธอรีน แอชตัน หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ขอให้บาห์เรนเริ่มการเจรจากับผู้ประท้วงโดยไม่รีรอ และกล่าวว่าเธอรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง
ด้าน วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ กล่าวถึงเหตุการณ์ในลิเบียว่า การที่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายผู้ชุมนุมเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และน่าตกใจอย่างยิ่ง พร้อมขอให้ทางการลิเบียงดใช้ความรุนแรงกับประชาชน
