xs
xsm
sm
md
lg

คนงานเหมืองชิลีรับเคยคิด “ฆ่าตัวตาย-กินเนื้อกันเอง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หนังสือ “33 Men” ของ โจนาธาน แฟรงคลิน
เอเอฟพี - คนงานเหมืองชิลี 33 คนผู้ติดอยู่ใต้ดิน ยอมรับเคยคิดฆ่าตัวตาย และกินเนื้อเพื่อนร่วมชะตากรรมประทังความหิว ก่อนจะสามารถติดต่อกับทีมช่วยเหลือได้ ข้อมูลจากหนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาระบุ หลังวางแผงวานนี้ (14)

โจนาธาน แฟรงคลิน นักข่าวอาวุโสชาวสหรัฐฯ เขียนบรรยายไว้ในหนังสือเรื่อง “33 Men” ว่า คนงานเหมืองชิลีแทบทุกคนต่างตกอยู่ในภาวะหวาดผวาจากภัยพิบัติ (post-traumatic stress disorder) ตั้งแต่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมา หลังจากต้องทุข์ทนอยู่ใต้เหมืองเป็นเวลา 69 วัน

พวกเขามีชีวิตรอดจากการแบ่งปลาทูน่า ซึ่งนับวันยิ่งร่อยหรอลงทุกที ในช่วง 16 วันแรก ตั้งแต่เหมืองถล่ม

“ถึงมี หรือไม่มีอาหาร ผมก็ต้องออกมาจากที่นั่นให้ได้” มาริโอ เซปัลเบดา หนึ่งในคนงานเหมืองชิลีให้สัมภาษณ์กับ รายการ “60 มินิตส์” ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส เมื่อวันอาทิตย์ (13)

ในวันที่ 17 ของการติดอยู่ใต้ดิน เมื่ออาหารใกล้หมดลง คนงานหลายคนยอมรับว่า อาจต้องยอมกินเนื้อมนุษย์ของเพื่อนร่วมชะตากรรม หากมีใครสักคนเสียชีวิต ทว่าในวันนี้เองที่พวกเขาสามารถติดต่อกับทีมช่วยเหลือผ่านทางหัวสว่านที่เจาะลงมา ทะลุผนังถ้ำภายในเหมืองซานโฮเซ

แฟรงคลิน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ระบุว่า “พวกเขาบอกผมว่า มีอุปกรณ์ทั้งหม้อ และเลื่อยเตรียมพร้อมแล้ว (สำหรับการทำอาหารจากเนื้อมนุษย์)”

วิกตอร์ ซาโมรา อีกหนึ่งในคนงานเหมืองชิลีกล่าวว่า เขาและเพื่อนร่วมชะตากรรมคนอื่นๆ ต่างหมดหวังในชีวิต และกำลังคิดกันอย่างเอาจริงเอาจังถึงการฆ่าตัวตาย

“คือ ถ้าเรายังต้องอยู่ในสภาพอย่างนั้นต่อไป มันคงจะดีกว่าถ้าเราเข้าไปยังที่พักด้วยกัน เปิดเครื่องยนต์ แล้วปล่อยให้ขาดใจตายจากก๊าซคาร์บอนมอนอกซ์ไซด์” เขาระบุถึงความคิดห้วงหนึ่งในช่วงเวลานั้น

ซาโมรากล่าวว่า เขาไม่คิดว่ามันเป็นการฆ่าตัวตาย “นั่นมันทำให้เราไม่ต้องทรมานต่อไป เพราะอย่างไรเราน่าจะตายอยู่ดี”

ภาพเหตุการณ์การช่วยชีวิตคนงานเหมืองชิลีทั้ง 33 คนได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยมีการถายทอดสดภาพประวัติศาสตร์ดังกล่าวจากสำนักข่าวต่างๆ

โจนาธาน แฟรงคลิน ซึ่งทำข่าวอยู่ในชิลีมากว่า 16 ปี ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงตัวคนงานเหมืองทั้ง 33 คน และได้สัมภาษณ์พวกเขาลงหนังสือเล่มใหม่นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น