เอเอฟพี - ผู้นำกลุ่มกบฏเชเชนอ้างความรับผิดชอบ เหตุระเบิดฆ่าตัวตายในท่าอากาศยานหลักของกรุงมอสโก เมื่อเดือนที่แล้ว โดยในเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตไป 36 ชีวิต แกนนำกลุ่มหัวรุนแรงผู้นี้เคยออกมาเตือนรัสเซียแล้วว่า จะทำให้ปี 2011 เป็นปีแห่ง “โลหิตและน้ำตา”
“ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งของผม” โดกู อูมารอฟ หัวหน้ากบฏเชเชน กล่าวผ่านทางวิดีโอ ซึ่งโพสต์ขึ้นบนเว็บไซต์ Kavkaz Center เมื่อช่วงดึกวานนี้ (7) โดยอ้างถึงเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ณ ท่าอากาศยานโดโมเดโดโว เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา เขายังระบุอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการแก้แค้นต่ออาชญากรรม ที่ทางการรัสเซียก่อขึ้นในดินแดนคอเคซัสเหนือ และได้เน้นย้ำว่า เจตนาก่อเหตุบริเวณอาคารผู้โดยสารนานาชาติ ฝั่งขาเข้า เพื่อสังหารชาวต่างชาติ
กลุ่มนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนเคยวิพากษ์วิจารณ์ ปฏิบัติการพิเศษของทางการรัสเซีย ซึ่งปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงในภูมิภาคคอเคซัสเหนือ ด้วยวิธีการที่โหดร้ายทารุณ และมองพลเรือนในพื้นที่ดังกล่าว เป็นเสมือนผู้ต้องสงสัย
ทั้งนี้ อูมารอฟ ประกาศตัวเป็นแกนนำดินแดน “คอเคซัส เอมิเรต” และพยายามผนึกกำลังกับกลุ่มต่างๆ ในภูมิภาค เพื่อก่อตั้งรัฐอิสลาม และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดกู อูมารอฟ ได้ประกาศกร้าวผ่านทางวิดีโอก่อนหน้านี้ว่า จะสร้างหายนะให้กับรัสเซียในปี 2011 “พระเจ้าประสงค์ให้เราทำให้ปีนี้เป็นปีแห่งโลหิตและน้ำตาของพวกคุณ” เขาได้เรียกร้องให้ชาวรัสเซียกดดันให้ผู้นำประเทศปลดพันธนาการออกจากดินแดนคอเคซัสเหนือ พร้อมกันนี้ ยังระบุว่า จะไม่หยุดโจมตีจนกว่ารัสเซียจะยอมถอนตัวออกจากภูมิภาคดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า รัฐบาลเครมลินยืนกรานว่า ไม่มีวันปลดปล่อยคอเคซัสเหนือ หรือแม้แต่ยอมนั่งโต๊ะเจรจากับ “กลุ่มก่อการร้าย”
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัสเซีย รายงานว่า การก่อเหตุระเบิดท่าอากาศยานโดโมเดโดโวเป็นน้ำมือของ สมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงวัย 20 ปี ซึ่งกำลังมึนเมาจากฤทธิ์ยาเสพติด แหล่งข่าวภายในหน่วยงานความมั่นคงรัสเซียรายหนึ่งให้ข้อมูลกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ว่า มาโกเมด เยฟโลเยฟ มือระเบิดวัย 20 ปีผู้นี้เดินทางมาจากเขตปกครองอินกูเชเตีย ซึ่งมีชายแดนติดกับเชชเนีย
การก่อเหตุโจมตีเจ้าพนักงานและตำรวจเคยเกิดขึ้นรายวันในภูมิภาคคอเคซัสเหนือ และหลังจากเหตุการณ์สงบนิ่งมาหลายปี การระเบิดฆ่าตัวตายก็หวนกลับสู่กรุงมอสโกอีกครั้งเมื่อเดือนมีนาคมปี 2010 เมื่อมือระเบิดสตรีเพศ 2 คนจากภูมิภาคดังกล่าวจุดชนวนระเบิดปลิดชีพตัวเองพร้อมกับผู้บริสทุธิ์ 40 รายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งหนึ่งในชั่วโมงเร่งด่วน
หลังเหตุการณ์โจมตีเมื่อเดือนมีนาคมดังกล่าว อูมารอฟก็เคยออกมาระบุว่า เป็นการแก้แค้นให้กับการเสียชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์จากปฏิบัติการพิเศษของเจ้าหน้าที่รัสเซีย และเช่นเดียวกัน ครั้งนี้ โดกู อูมารอฟได้กล่าวว่า เหตุระเบิดจะดำเนินต่อไป ตราบเท่าที่ยังมี “อาชญากรรมที่เกิดจากน้ำมือแก๊งอิทธิพลของปูติน (นายกรัฐมนตรีรัสเซีย)” ในดินแดนคอเคซัสเหนือ
วิดีโอหลังการระเบิดที่ท่าอากาศยานโดโมเดโดโว เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2011
