นายกฯญี่ปุ่น ชี้ “เมดเวเดฟ” เยือนหมู่เกาะพิพาทเป็นความผิดที่ “ไม่อาจอภัยได้”

เอเอฟพี - การเดินทางเยือนหมู่เกาะคูริลของประธานาธิบดี ดิมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซียเมื่อหลายเดือนก่อน ถือเป็นการท้าทายอำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นที่ไม่อาจอภัยได้ นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง แห่งญี่ปุ่น กล่าววันนี้ (7)

สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า นายกรัฐมนตรีจะเร่งหาข้อยุติในกรณีพิพาทหมู่เกาะคูริล หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “ดินแดนตอนเหนือ” ซึ่งทำให้รัสเซียและญี่ปุ่นยังไม่สามารถลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้

ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดี ดิมิทรี เมดเวเดฟ เดินทางเยือนหมู่เกาะคูริลตอนใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่นและคาบสมุทรคัมซัตกาของรัสเซีย เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

“ผมจะใช้ความอดทนในการเจรจา โดยยึดนโยบายพื้นฐานเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทหมู่เกาะทั้ง 4 และเพื่อให้สนธิสัญญาสันติภาพได้รับการลงนาม” คัง กล่าววันนี้ (7)

เซอิจิ มาเอฮาระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเดินทางเยือนกรุงมอสโกในวันพฤหัสบดี (10) นี้ กล่าวว่า ตนจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังเพื่อทวงคืนหมู่เกาะทั้ง 4 “แม้จะต้องสูญเสียตำแหน่งทางการเมืองก็ตาม” ทั้งยังรับปากว่า จะแสดงจุดยืนของญี่ปุ่นให้รัสเซียรับรู้ และหวังว่าจะได้ข้อยุติปัญหาในการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง คัง และ เมดเวเดฟ ครั้งถัดไป

หมู่เกาะพิพาททั้ง 4 ซึ่งอุดมไปด้วยแร่เงินและทอง และตั้งอยู่ในน่านน้ำที่เป็นแหล่งปลาชุม ตกอยู่ในความดูแลของกรุงมอสโก ตั้งแต่ทหารโซเวียตใช้กำลังบุกยึดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดเพียงไม่กี่วัน โดยรัสเซียได้ขับไล่ชาวญี่ปุ่นออกจากพื้นที่ และส่งพลเมืองของตนเข้าไปอาศัยแทน

เดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมดเวเดฟ แถลงว่า ญี่ปุ่นควรตระหนักว่ารัสเซียจะไม่ยอมอ่อนข้อเรื่องหมู่เกาะทั้ง 4 อย่างแน่นอน พร้อมเสนอให้ร่วมกันสร้างเขตเศรษฐกิจเสรีในบริเวณดังกล่าว

เซิร์ดยูคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ (4) ว่า เขาได้ไปเยือนหมู่เกาะทั้ง 4 เพื่อตรวจดูว่าหน่วยทหารปืนกลและปืนใหญ่ในภูมิภาคดังกล่าวมีอาวุธรุ่นล่าสุดประจำการหรือไม่ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นได้ตอบโต้ด้วยการเรียกทูตรัสเซีย มิกาอิล เบลีย์ เข้าไปตำหนิอย่างรุนแรง

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงเมื่อวันเสาร์ (5) ว่า รู้สึกผิดหวังต่อท่าทีกราดเกรี้ยวของญี่ปุ่น และเบื่อหน่ายกับการประท้วงเช่นนี้เต็มทน

“กระทรวงการต่างประเทศเคยโต้ตอบการร้องเรียนของญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง และรู้สึกผิดหวังที่ญี่ปุ่นยังไม่เลิกรา”