เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติออกโรงป้อง บันคีมูน หลังนายใหญ่ยูเอ็นผู้นี้ถูกฮิวแมนไรท์วอตช์สบประมาทว่า ไม่เด็ดขาดพอที่จะแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชน
รายงานประจำปีของฮิวแมนไรท์วอตช์ กล่าวหา องค์การสหประชาชาติ และสหภาพยุโรปถึงความขลาด โดยอ้างถึงการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ อาทิ จีน ด้วยนโยบายทางการทูตอันกะปลกกะเปลี้ย
อย่างไรก็ตาม องค์การสหประชาชาติออกมายืนยันว่า บันคีมูนได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลก และใช้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เมื่อต้องปราศรัยต่อสื่อถึงกรณีใดกรณีหนึ่งเป็นการเฉพาะ
บันคีมูน ได้ใช้การกดดันจากสังคม ซึ่งเขาตระหนักว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน ฟาฮาน ฮัก โฆษกสหประชาชาติ แถลง
“ในแต่ละกรณี เขาได้ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และเลือกใช้วิธีที่ทรงประสิทธิภาพซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ในการจัดการปัญหาสิทธิมนุษยชน”
“เหตุการณ์ต่างๆ แสดงให้เห็นว่า เขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ด้วยการใช้ทั้งวิธีการทูตเงียบ และกระแสกดดันจากสังคมโลก”
ฟาฮาน ฮัก ระบุว่า การปล่อยตัวคู่เกย์ในมาลาวีเป็นหนึ่งตัวอย่างในผลสำเร็จจากวิธีการทูตเงียบของบันคีมูน
อย่างไรก็ตาม บันคีมูน ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก ที่ไม่ยอมยกกรณีของ หลิว เสี่ยวโป นักโทษการเมืองที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพขึ้นมาหารือกับนายกรัฐมนตรี หู จิ่นเทา ระหว่างการเยือนจีนเมื่อปีก่อน
โฆษกสหประชาชาติผู้นี้ แก้ต่างว่า หลังจากได้พบกับนายกรัฐมนตรี หู จิ่นเทา บันคีมูนได้หยิบยกประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนขึ้นกล่าวปราศรัยในโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งหนึ่ง ระหว่างการเดินทางเยือนจีนครั้งเดียวกันนั้นเอง
เคนเนธ รอธ ผู้อำนวยการของฮิวแมนไรท์วอตช์กล่าวบรรยายในบทนำของรายงานประจำปีฉบับนี้ว่า บันคีมูนอิดออดเกินกว่าที่จะกดดันรัฐบาลที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้
คาดกันว่า ในเร็วๆ นี้ บันคีมูนจะออกมาประกาศตัวเข้ารับเลือกเป็นเลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นสมัยที่ 2