เอเอฟพี - ภารกิจมาราธอนของการนับคะแนนเพื่อให้ทราบผลลัพธ์ของการลงประชามติแยกภาคใต้ของประเทศซูดาน ออกมาเป็นรัฐเอกราช ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่คืนวันเสาร์ (15) ภายหลังเสร็จสิ้นช่วงเวลา 1 สัปดาห์ของการให้ประชาชนในดินแดนนี้หย่อนบัตรแสดงความประสงค์ ว่า จะแยกตัวออกมาจากชาติใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริกาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามหน่วยเลือกตั้งจำนวนมาก ซึ่งไม่มีไฟฟ้าใช้ การนับคะแนนกระทำกันในแสงคบเพลิง ท่ามกลางการเป็นสักขีพยานของผู้สังเกตการณ์ ทั้งในระดับประเทศและระดับระหว่างประเทศ โดยที่คาดหมายกันว่า บางหน่วยอาจจะนับคะแนนไปตลอดทั้งคืนจนกว่าจะเสร็จสิ้น ขณะที่หน่วยอื่นๆ โดยเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่ชนบท ภายหลังหมดเวลาลงบัตรแล้วก็มีการใส่กุญแจหีบลงคะแนน แล้วนำมาเริ่มนับกันในวันอาทิตย์ (16)
การลงประชามติคราวนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดของข้อตกลงสันติภาพปี 2005 ซึ่งยุติสงครามกลางเมืองที่สร้างความวิบัติหายนะมาอย่างยาวนานถึง 22 ปี ระหว่างฝ่ายเหนือซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลาม กับพวกภาคใต้ที่ผู้คนส่วนมากไม่ใช่อาหรับอีกทั้งนับถือคริสต์ตลอดจนนับถือผีแบบพื้นบ้านดั้งเดิม
ประธานคณะกรรมการจัดการลงประชามติ โมฮัมเหม็ด อิบรอฮิม คาลิล รัฐบุรุษอาวุโสผู้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศของซูดานในช่วงทศวรรษ 1960 กล่าวยกย่องสรรเสริญว่า การลงคะแนนคราวนี้เป็นครั้งที่ “สันติที่สุด” เท่าที่เขาเคยประสบพบเห็นมาในซูดาน
ผู้คนจำนวนมากได้ออกมาใช้สิทธิกันตั้งแต่วันแรกๆ จนกระทั่งเมื่อการลงประชามติผ่านพ้นไปเพียงแค่ 4 วัน จำนวนก็เกินระดับ 60% ของผู้มีสิทธิออกเสียง ซึ่งยังผลให้การหย่อนบัตรคราวนี้มีผลบังคับใช้ตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพ
สำหรับผลการลงคะแนนนั้น คาดหมายกันว่า กว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการได้คงต้องเป็นเดือนกุมภาพันธ์ ทว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องกันว่า ฝ่ายที่ต้องการแยกตัวเป็นเอกราชจะได้ชัยชนะอย่างท่วมท้น
สิ่งที่เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงเรื่องนี้ ก็คือ การเลือกตั้งทั่วไปในซูดานเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าในเขตภาคใต้นี้ พวกผู้สมัครของขบวนการปลดปล่อยประชาชนซูดาน ซึ่งเป็นอดีตกบฎผู้เคยเข้าร่วมการต่อสู้เรียกร้องเอกราช ได้รับคะแนนเสียงสูงถึง 93%
ทางด้าน ราบี อับดล อาติ เจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคเนชันแนล คองเกรส ปาร์ตี ของประธานาธิบดี โอมาร์ อัล บาชีร์ แถลงว่า ทางพรรคจะยอมรับผลของการลงประชามติ ถึงแม้ว่าชาวภาคใต้ลงคะแนนเลือกที่จะแยกตัวออกจากซูดานก็ตามที
“การลงประชามติเกิดขึ้นในบรรยากาศของความสงบเรียบร้อย … โดยที่มีเสรีภาพและความยุติธรรมในระดับที่สูงมาก” เจ้าหน้าที่ผู้นี้บอกกับเอเอฟพี “เป็นที่ชัดเจนมากว่าทางพรรคจะยอมรับผล ไม่ว่าจะออกมาในทางอยู่ร่วมกันต่อไป หรือเป็นการแยกตัวออกไป”
อย่างไรก็ตาม ตามท้องถนนในกรุงคาทูม เมืองหลวงของซูดาน ยังคงมีความรู้สึกของความเศร้าสร้อยทว่าทำอะไรไม่ได้ จากการที่ประชาชนร่วมๆ 9 ล้านคนของภาคใต้กำลังทำท่าจะแยกตัวออกไป ---โดยนำเอาประมาณ 80% ของน้ำมันสำรองที่ซูดานมีอยู่ติดตามไปด้วย