เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์ แถลงวันนี้ (14) ว่า เตรียมตั้งโต๊ะเจรจากับกบฏมุสลิมแบ่งแยกดินแดนในเดือนหน้า นับเป็นความพยายามอีกครั้งใหม่ เพื่อหาทางยุติเหตุความไม่สงบอันยาวนานหลายสิบปี ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปหลายร้อยหลายพันราย
การเจรจาระหว่างทางการกับแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโรครั้งนี้จะมีขึ้นในมาเลเซียวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ ถือเป็นการกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งแรกของทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งแต่ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโนได้รับเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว
“รัฐบาลฟิลิปปินส์ และกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (เอ็มไอแอลเอฟ) ตกลงกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพอีกครั้ง” คำแถลงของรัฐบาลระบุ หลังกระบวนการสันติภาพเมื่อปี 2008 ก่อนล้มไม่เป็นท่า
อีด กาบาลู โฆษกกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการเจรจาครั้งใหม่ พร้อมทั้งระบุว่า การหันหน้าคุยกันจะเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพ
“เราต่างคาดหวังว่า การเจรจาจะสามารถสร้างสันติภาพตามที่เราต้องการได้ในที่สุด ประชาชนบนเกาะมินดาเนาจะได้ประโยชน์จากกระบวนการสันติภาพและการพัฒนาสำคัญๆ” โฆษกแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโรผู้นี้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพี
มาริวิก เลโอเนน หัวหน้าคณะกรรมการสันติภาพของรัฐบาลฟิลิปปินส์กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ หลังการหารืออย่างไม่เป็นทางการในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวานนี้ (13)
ทั้งนี้ การเจรจาครั้งก่อนหน้าล้มครืนลงเมื่อปี 2008 หลังจากศาลสูงสุดมีคำสั่งยกเลิกร่างสัญญาสันติภาพที่มอบสิทธิให้กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโรดูแลพื้นทางตอนใต้ของเกาะมินดาเนา ซึ่งอุดมไปด้วยสินแร่
กลุ่มเอ็มไอแอลเอฟ ซึ่งมีกองกำลังกว่า 12,000 คน ได้เปิดฉากก่อสงครามกบฏตั้งแต่ปี 1978 เพื่อแบ่งแยกรัฐมุสลิมอิสระบนเกาะมินดาเนา ซึ่งมีชาวคริสต์คาทอลิกอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก
เหล่าผู้บัญชาการของเอ็มไอแอลเอฟนำเอาคำตัดสินของศาลสูงสุดครานั้น มาจุดชนวนโจมตีชุนชุมชาวคริสต์ในเกาะมินดาเนา ความรุนแรงดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 400 ราย และประชาชนอีกกว่า 750,000 คนต้องลี้ภัยออกจากพื้นที่
รัฐบาลฟิลิปปินส์ รายงานว่า ตั้งแต่ปี 1978 มีผู้เสียชีวิตจากการก่อกบฏมากกว่า 150,000 ราย
นอกจากนี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีอากีโนยังพยายามตั้งโต๊ะเจรจากับกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์เป็นครั้งแรก หลังสู้รบกันมาตั้งแต่ปี 1969 โดยการเจรจาครั้งแรกกับกลุ่มกบฏเหมาอิสต์จะมีขึ้นในนอร์เวย์ช่วงสุดสัปดาห์นี้