เอเอฟพี - เมืองหลวงตูนิเซียตกอยู่ภายใต้การประกาศเคอร์ฟิวช่วงเช้าวันนี้ (13) โดยมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้าประจำการตามท้องถนนทั่วกรุง หลังสัปดาห์แห่งการชุมนุมที่เต็มไปด้วยความรุนแรง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาอาหารแพงและการว่างงาน อันนำมาซึ่งการตอบโต้ของทางการ ที่สังเวยชีวิตประชาชนไปหลายสิบราย
ภายใต้ความกดดันจากกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ความมั่นคงตูนิเซียเปิดฉากยิงใส่ฝูงชนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตระหว่าง 20-50 ราย รัฐบาลสั่งปลดรัฐมนตรีมหาดไทยทันที และประกาศจะสืบสวนข้อกล่าวหากรณีตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อไป
เมื่อวานนี้ (12) กองกำลังรัฐบาลลาดตระเวนทั่วกรุงตูนิส ด้วยรถหุ้มเกราะ และรถบรรทุกทหาร โดยเข้าประจำตามจุดสี่แยกยุทธศาสตร์สำคัญๆ ท่ามกลางความกังวล หลังจำนวนผู้ประท้วงที่เพิ่มขึ้น เพื่อคัดค้านราคาอาหารแพง และปัญหาการว่างงาน
ช่วงดึกคืนวันอังคาร (11) ผู้ประท้วงก่อเหตุเผารถยนต์ และทำลายทรัพย์สินสำนักงานของรัฐบาล บานปลายมาจนกระทั่งวานนี้โดยกำลังทหารไม่สามารถยับยั้งการก่อเหตุความรุนแรงระลอกใหม่ แม้มีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน นักข่าวเอเอฟพีรายงาน
รัฐมนตรีมหาดไทยตูนิเซียประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ช่วง 20.00 น. วันพุธ ถึง 05.30 น. วันนี้ โดยอ้างถึง “เหตุวุ่นวาย การปล้นสะดม การทำร้ายผู้คน และทำลายทรัพย์สินในบางพื้นที่ของเมืองหลวง”
อย่างไรก็ตาม ต่อมานายกรัฐมนตรีมูฮัมเหม็ด กานนูชีสั่งปลด รัฐมนตรีมหาดไทยราฟิก เบลฮัจ กาเซม ผู้รับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจต่อการสลายการชุมนุมที่ถูกประณามจากนานาชาติ รวมทั้งสหภาพยุโรปเองก็ออกคำแถลงบริภาษการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจตูนิเซีย
ด้านสหภาพแรงงานของตูนิเซียระบุว่า กองกำลังความมั่นคงได้สังหารผู้ประท้วงไปกว่า 50 รายเพียงช่วงเวลา 3 วันตั้งแต่วันเสาร์ (8) ระหว่างการปักหลักชุมนุมในภูมิภาคทางตะวันตกของประเทศ ส่วนทางรัฐบาลแถลงยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง 21 ราย และเป็นการป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่
นายกรัฐมนตรีกานนูชีระบุว่า จะมีคณะกรรมการทำหน้าที่สอบสวน กรณีฝ่ายความมั่นคงใช้กำลังเกินกว่าเหตุหรือไม่ พร้อมทั้งเผยว่า ได้ปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมระหว่างเหตุความไม่สงบไปจำนวหนนึ่ง และกำชับให้ทหารที่ประจำการอยู่ในกรุงตูนิส “ป้องกันความเสียหายของหน่วยงานรัฐจากการทำลายทรัพย์สิน และปล้นสะดมเท่านั้น”
เมื่อวานนี้ เหตุความรุนแรงได้ขยายวงไปสู่ทางใต้ของประเทศ พร้อมการปะทะครั้งใหม่ใน เมืองดูซ (Douz) ธาลา (Thala) และเมืองสแฟกซ์ (Sfax) โดยมีรายงานว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมแล้วอีก 3 ราย
ภายใต้ความกดดันจากกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ความมั่นคงตูนิเซียเปิดฉากยิงใส่ฝูงชนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตระหว่าง 20-50 ราย รัฐบาลสั่งปลดรัฐมนตรีมหาดไทยทันที และประกาศจะสืบสวนข้อกล่าวหากรณีตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อไป
เมื่อวานนี้ (12) กองกำลังรัฐบาลลาดตระเวนทั่วกรุงตูนิส ด้วยรถหุ้มเกราะ และรถบรรทุกทหาร โดยเข้าประจำตามจุดสี่แยกยุทธศาสตร์สำคัญๆ ท่ามกลางความกังวล หลังจำนวนผู้ประท้วงที่เพิ่มขึ้น เพื่อคัดค้านราคาอาหารแพง และปัญหาการว่างงาน
ช่วงดึกคืนวันอังคาร (11) ผู้ประท้วงก่อเหตุเผารถยนต์ และทำลายทรัพย์สินสำนักงานของรัฐบาล บานปลายมาจนกระทั่งวานนี้โดยกำลังทหารไม่สามารถยับยั้งการก่อเหตุความรุนแรงระลอกใหม่ แม้มีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน นักข่าวเอเอฟพีรายงาน
รัฐมนตรีมหาดไทยตูนิเซียประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ช่วง 20.00 น. วันพุธ ถึง 05.30 น. วันนี้ โดยอ้างถึง “เหตุวุ่นวาย การปล้นสะดม การทำร้ายผู้คน และทำลายทรัพย์สินในบางพื้นที่ของเมืองหลวง”
อย่างไรก็ตาม ต่อมานายกรัฐมนตรีมูฮัมเหม็ด กานนูชีสั่งปลด รัฐมนตรีมหาดไทยราฟิก เบลฮัจ กาเซม ผู้รับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจต่อการสลายการชุมนุมที่ถูกประณามจากนานาชาติ รวมทั้งสหภาพยุโรปเองก็ออกคำแถลงบริภาษการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจตูนิเซีย
ด้านสหภาพแรงงานของตูนิเซียระบุว่า กองกำลังความมั่นคงได้สังหารผู้ประท้วงไปกว่า 50 รายเพียงช่วงเวลา 3 วันตั้งแต่วันเสาร์ (8) ระหว่างการปักหลักชุมนุมในภูมิภาคทางตะวันตกของประเทศ ส่วนทางรัฐบาลแถลงยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง 21 ราย และเป็นการป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่
นายกรัฐมนตรีกานนูชีระบุว่า จะมีคณะกรรมการทำหน้าที่สอบสวน กรณีฝ่ายความมั่นคงใช้กำลังเกินกว่าเหตุหรือไม่ พร้อมทั้งเผยว่า ได้ปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมระหว่างเหตุความไม่สงบไปจำนวหนนึ่ง และกำชับให้ทหารที่ประจำการอยู่ในกรุงตูนิส “ป้องกันความเสียหายของหน่วยงานรัฐจากการทำลายทรัพย์สิน และปล้นสะดมเท่านั้น”
เมื่อวานนี้ เหตุความรุนแรงได้ขยายวงไปสู่ทางใต้ของประเทศ พร้อมการปะทะครั้งใหม่ใน เมืองดูซ (Douz) ธาลา (Thala) และเมืองสแฟกซ์ (Sfax) โดยมีรายงานว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมแล้วอีก 3 ราย