เอเอฟพี - กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนชุมนุมประท้วงหน้าทำเนียบขาว วานนี้ (11) เนื่องในวันครบรอบปีที่ 9 ของการเปิดค่ายกักกันกวนตานาโม ซึ่งประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยให้สัญญาประชาคม ว่า จะปิดเรือนจำดังกล่าว
การประท้วงครั้งนี้จัดขึ้นโดยองค์การนิรโทษกรรมสากล และกลุ่มสิทธิมนุษยชนอื่นๆ รวมทั้งบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 หลังชุมนุมกันหน้าทำเนียบขาว ผู้ประท้วงซึ่งสวมชุดนักโทษสีส้ม พากันเดินขบวนไปยังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพื่อปักหลักชุมนุมต่อไป
เรือนจำอ่าวกวนตานาโมตั้งอยู่บริเวณ ฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในคิวบา เปิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2002 เพื่อควบคุมตัวนักโทษ “สงครามก่อการร้าย” หลังจากสหรัฐฯ เสริมกำลังทหารเข้าไปในอัฟกานิสถาน และสมรภูมิต่างๆ ทั่วโลก เพื่อตอบโต้กลุ่มก่อการร้ายที่ถล่มตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และต่อกรกับเครือข่ายผู้ก่อการร้ายทั่วโลก
ความพยายามของประธานาธิบดี โอบามา ในการปิดค่ายกักกันกวนตานาโม ประสบกับแรงต้านจากทั่วประเทศ และในสภาคองเกรส ท่ามกลางความกังวลว่า ระบบของเรือนจำสหรัฐฯ ไม่เหมาะในคุมตัวนักโทษกวนตานาโม และปกป้องความปลอดภัยของชาวอเมริกัน ทั้งนี้ เรือนจำกวนตานาโมเป็นผลงานจากรัฐบาลชุดก่อนของ จอร์จ ดับเบิลยู บุช
ทอม พาร์กเกอร์ ผู้อำนวยการด้านนโยบายขององค์การนิรโทษกรรมสากล รายงานว่า การควบคุมนักโทษต่อไปเป็นการตบหน้าประวัติศาสตร์อันยาวนานของชาวสหรัฐฯ รวมทั้งระบบกฎหมายสากล โดยเขาได้ตั้งนิยามถึงเรือนจำกวนตานาโมว่าเป็นสัญลักษณ์ของ “ความอยุติธรรมและการกดขี่ข่มเหงของโลก”
“ความคิดที่ว่า คุณไม่สามารถกักขังคน โดยไม่มีการไต่สวน มีมาตั้งแต่ยุคกลาง (Middle Ages) มันเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ ประธานาธิบดี โอบามา ยังให้คำมั่นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่รัฐบาลทำเป็นการตอกย้ำว่า นี่เป็นหนึ่งในช่วงเวลาอันดำมืดที่สุดของสหรัฐฯ ยุคนี้” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งเคยมีการปล่อยตัวนักโทษกวนตานาโมไปแล้วราว 600 ราย แต่ค่ายกักกันแห่งนี้ยังคงควบคุมตัวนักโทษไว้อีก 173 ราย โดยมีเพียง 3 รายเท่านั้นก็ถูกตัดสินว่า มีความผิดจริงฐาน อาชญากรสงคราม
สภานิติบัญญัติสหรัฐฯ ผ่านมาตรการหลายฉบับ ซึ่งทำให้กระบวนการส่งตัวนักโทษกวนตานาโมมายังเรือนจำในประเทศเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพื่อขัดขวางความพยายามที่จะปิดค่ายกักกันอ่าวกวนตานาโม