xs
xsm
sm
md
lg

โหวตออสเตรเลีย สวรรค์ของเด็กต่างชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ - คนกำลังเพลิดเพลินกับความเย็นสดชื่นของน้ำทะเลที่ชายหาดแห่งหนึ่งในเมืองเมลเบิร์น เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของแดนจิงโจ้
เอเจนซี - ชายหาด การใช้ชีวิตนอกบ้าน และโรงเรียนที่มีผู้คนดูเป็นมิตร ทำให้ออสเตรเลีย ได้รับการโดหวตจากชาวต่างชาติให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการเลี้ยงดูบุตรของพวกเขา เหนือสิงคโปร์ และสหรัฐฯ ทั้งนี้ เป็นผลการสำรวจของธนาคารเอชเอสบีซี

ผลการสำรวจ ระบุว่า ออสเตรเลียมีสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับเด็กๆ ที่กระฉับกระเฉง และสุขภาพดี โดยพบว่า เด็กต่างชาติมากกว่า 3 ใน 4ใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากกว่าในประเทศบ้านเกิด

เด็กต่างชาติที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่เรียกว่า ดาวน์อันเดอร์ นี้ ยังพบว่าพวกเขาทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ได้ง่ายกว่า และปรับตัวได้ง่ายกว่าเมื่อเจอกับสภาพแวดล้อมใหม่ในโรงเรียนของออสเตรเลีย ขณะนี้ผลสำรวจ พบว่า โรงเรียนในสหรัฐฯ และในสหราชอาณาจักรมีความเป็นมิตรกับเด็กต่างชาติน้อยที่สุด

ผลการสำรวจฉบับนี้พิจารณาจากความเห็นของผู้ที่ต้องอยู่ในต่างแดน จำนวนกว่า 3,100 คนจาก 50 ประเทศ ซึ่งปัจจุบันอาศัย และทำงานในศูนย์กลางของชาวต่างชาติต่างๆ รวมถึง 6 จุดสำคัญของโลก ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และออสเตรเลีย โดยผู้ตอบแบสำรวจต้องให้คะแนนประเภทต่างๆ เช่น ในเรื่องศูนย์รับเลี้ยงเด็ก การศึกษา ความยาก-ง่ายที่จะกลมกลืนกับคนท้องถิ่น ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร และเวลาที่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้

ออสเตรเลียมีสัดส่วนพ่อแม่ต่างชาติมากที่สุดในโลก ผู้ปกครองเหล่านี้ รายงานว่า คุณภาพชีวิตครอบครัวของพวกเขาดีขึ้นเมื่อเที่ยบกับภูมิลำเนาเดิม ขณะที่เกือบครึ่ง (ร้อยละ 45) ระบุว่า การย้ายไปอยู่สหราชอาณาจักรจะมีผลกระทบด้านลบ

ทั้งนี้ โดยรวมแล้ว สิงคโปร์ติดอันดับสอง ตามด้วยฮ่องกง ยูเออี สหรัฐฯ และ อังกฤษ อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ครองอันดับหนึ่งในเรื่องความปลอดภัย ขณะที่ออสเตรเลียคะแนนด้อยลงไปเล็กน้อย เพราะเรื่องคุณภาพของศูนย์รับเลี้ยงเด็ก นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังเห็นว่า โดยทั่วไปแล้ว สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ เป็นสถานที่เหมาะกับสุขภาพที่ดีน้อยกว่า โดยเด็กในสองประเทศนี้มีแนวโน้มใช้เวลาว่างดูโทรทัศน์ หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์มากกว่าประเทศอื่น

เอชเอสบีซี ยังระบุว่า เด็กต่างชาติในสหรัฐฯ มีแนวโน้มว่า จะรับประทานอาหารขยะบ่อยครั้งมากกว่าตอนที่พวกเขาอยู่ในประเทศบ้านเกิด ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 47 บอกว่ากินอาหารขยะมากขึ้น

อย่างไรก็ดี โดยรวมแล้ว ผู้ปกครองชาวต่างชาติ เชื่อว่า ลูกๆ ของตนได้รับประโยชน์จากการย้ายไปอยู่ในต่างประเทศ โดยเด็กต่างชาติร้อยละ 48 บอกว่า ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ได้ดี และครึ่งหนึ่งบอกว่าทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ได้ง่าย ขณะที่ร้อยละ 49 ปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ได้ดี

ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรติดอันดับหนึ่ง ในเรื่องการปรับตัวทางวัฒนธรรม ขณะที่ความแตกต่างด้านวัฒนธรรมทำให้ยูเออีรั้งอันดับในท้ายตาราง
กำลังโหลดความคิดเห็น