เอเอฟพี - ฝนตกหนักจุดชนวนให้เกิดโคลนถล่มทับหลายหมู่บ้านทางตะวันออกของยูกันดา สังหารพลเรือนไปอย่างน้อย 55 ราย ขณะที่อีกกว่า 300 ชีวิตยังสูญหาย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มปฏิบัติการดึงศพออกจากโคลนตามหลังเหตุโคลนถล่มเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์(1)ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่กาชาดยูกันดา รายงานว่าเกิดน้ำท่วมและมีความเสียหายในหลายพื้นที่
ด้าน ทาร์ซิส กาบเวกเยเร รัฐมนตรีกู้กัยและรับมือหายนะ บอกกับรัฐสภาว่าสามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตได้แล้ว 55 ศพ หลังจากเหตุโคลนถล่มเล่นงาน 3 หมู่บ้านในตำบลบูดูดา ทางตะวันออกของประเทศ
กาชาดอูกันดา ให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวนเท่ากัน พร้อมระบุว่ามีประชาชนอีกราว 350 คนสูญหาย ขณะที่ กาบเวกเยเร คาดว่ามีผู้เสียหายราว 307 คน แต่ก็ยอมรับว่ามีผู้รอดชีวิตจาก 3 หมู่บ้านที่ประสบภัยเพียง 31 คนเท่านั้น
“จนถึงเที่ยงวัน(ตามเวลาท้องถิ่น)...ทีมกู้ภัยที่ประกอบด้วยทหาร ชาวบ้านและอาสาสมัครกาชาด สามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตได้ 55 ศพ” รัฐมนตรีรายนี้บอก ทั้งนี้เหตุโคลนถล่มมีขึ้นหลังจากเกิดฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน
ตลาดท้องถิ่นหลายแห่งได้รับความเสียหาย โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนและถนนสายต่างๆถูกปิดกั้นด้วยกองดินที่ถล่มลงมาจากพื้นที่สูง นอกจากนี้ยังเกิดน้ำท่วมอย่างกว้างในหลายหมู่บ้านในแถบภูมิภาคนี้ด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในพื้นที่อื่นๆ
เครื่องบรรเทาทุกข์หลายตันและเฮลิคอปเตอร์บรรทุกข์เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ประสบภัย รัฐมนตรีกู้ภัยระบุ “รถพ่วงบรรทุกอาหาร 26 ตันเดินทางออกไปยังบูดูดาแล้วเมื่อเช้านี้ และรถพ่วงบรรทุกอาหารอีก 25 ตัน ถูกส่งไปยังตำบลบูตาเลจา ซึ่งมีประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 600 คน”
เจ้าหน้าที่เทศบาลท้องถิ่นบอกว่า “ประชาชนหลายคนถูกฝังอยู่ใต้ดินสืบเนื่องจากฝนตกหนัก” ในตำบลบูดูดา ที่มีพลเมืองหนาแน่น “ทั่วทุกพื้นที่ถูกคุกคามและเรากำลังแจ้งกับผู้คนให้อพยพออกจากโดยด่วน”