เอเจนซี - การโจมตีทางอากาศของกองกำลังนาโต ในพื้นที่ทางใต้ของอัฟกานิสถาน ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 21 คน ซึ่งรัฐบาลอัฟกานิสถานระบุว่า เกิดเพราะความเข้าใจผิดของนาโตที่คิดว่าพลเรือนพวกนี้เป็นผู้ก่อความไม่สงบ
กองกำลังรักษาความมั่นคงนานาชาตินำโดยนาโต หรือองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(ISAF) แถลงว่า มีพลเรือนเสียชีวิต ขณะที่พวกเขาประชิดเข้าใกล้หน่วยทหารร่วมระหว่างนาโตและอัฟกานิสถานในจังหวัดอุรูซกัน เมื่อวานนี้(21) อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิต
การบาดเจ็บและเสียชีวิตของพลเรือนเป็นต้นเหตุสำคัญทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานและกองกำลังต่างชาติในประเทศ ซึ่งรุกโจมตีครั้งใหญ่เพื่อปราบปรามและกวาดล้างการก่อความไม่สงบของกลุ่มนักรบตอลิบานในตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา
พลเอกสแตนลีย์ แม็คคริสตัล ผู้บัญชาการกองกำลังนานาชาติในอัฟกานิสถาน แถลงว่า กองกำลังนานาชาติมาที่อัฟกานิสถานเพื่อปกป้องชาวอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า การสังหารพลเรือนโดยไม่ได้ตั้งใจดังกล่าว ทำลายความเชื่อมั่นและไว้ใจของชาวอัฟกานิสถาน
ซามารี บาชารี โฆษกกระทรวงมหาดไทย เผยวันนี้(22) ว่า มีพลเรือนถูกสังหาร 21 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 11 คน รวมถึงเด็ก และผู้หญิงด้วย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อไอเอสเอเอฟ สงสัยว่า ขบวนรถยนต์ของพลเรือนกลุ่มนี้มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบรวมอยู่ด้วย จากนั้นจึงระเบิดขบวนรถยนต์ดังกล่าว ขณะที่อามานุลเลาะห์ โฮทัก หัวหน้าสภาจังหวัดอูรูวกัน เผยกับผู้สื่อข่าวว่า พลเรือนกลุ่มดังกล่าวกำลังใช้รถมินิบัสเดินทางผ่านเขตชาร์ เชโน ทั้งนี้ ไอเอสเอเอฟยังแถลงว่า จะทำการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
การโจมตีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการ“ มุชตอรัก” ซึ่งเป็นการรโจมตีครั้งใหญ่ของนาโตเพื่อกวาดล้างกลุ่มตอลิบานในจังหวัดเฮลมันด์
