xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันลดเกือบ$1หลังดอลลาร์แข็ง/AIGขายAIAทำหุ้นสหรัฐฯบวก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอไอเอ กำลังตกอยู่ในมือของ พรูเดนเชียล บริษัทประกันภัยสัญชาติอังกฤษ
เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อวันจันทร์(1) จากแรงฉุดของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดบวกตามหลังไออีจีตกลงขายกิจการประกันชีวิตยักษ์ใหญ่ในเอเชียและความคาดหมายต่อผลประกอบการที่ดีของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 96 เซนต์ ปิดที่ 78.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายพุ่งขึ้นถึง 80.62 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ด้านเบรน์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์

เอลลิส อัคแลนด์ นักวิเคราะห์อิสระเปิดเผยว่าราคาน้ำมันร่วงลง "ในปฏิกริยาตอบสนองต่อดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น"

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนบวกเมื่อวันจันทร์(1) หลังมีปัจจัยหนุนจากกรณีเอไอจี ตกลงขายกิจการ "เอไอเอ" กิจการประกันชีวิตยักษ์ใหญ่ในเอเชีย และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ปรับเพิ่มประมาณการณ์ผลประกอบการ

หุ้นของอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงก์ (เอไอจี) พุ่งขึ้นถึง 4.4 เปอร์เซ็นต์ หลังจาก“พรูเดนเชียล” บริษัทประกันภัยสัญชาติอังกฤษ แถลงว่าสามารถทำความตกลงกับ “เอไอจี” เพื่อเข้าซื้อ “เอไอเอ” กิจการประกันชีวิตยักษ์ใหญ่ในเอเชีย ในราคา 35,500 ล้านดอลลาร์

เอไอเอ ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง ถือเป็นเพชรประดับมงกุฏในเอเชียของเอไอจี กิจการที่มีอายุเก่าแก่นมนานถึง 90 ปีแห่งนี้ ปัจจุบันบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ และมีลูกค้ามาซื้อกรมธรรม์ประเภทต่างๆ ราว 20 ล้านราย หรือเกือบๆ เท่ากับหนึ่งในสามของฐานลูกค้าทั้งหมดของเอไอจีทีเดียว

สำหรับเอไอจี ที่เคยเป็นบริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ตกอยู่ในภาวะแทบจะล้มละลายในเดือนกันยายน 2008 เมื่อไม่สามารถหาเงินจำนวนมหาศาลมาจ่ายให้พวกลูกค้า ซึ่งซื้อประกันภัยพวกหลักทรัพย์อิงสินเชื่อที่อยู่อาศัยตลอดจนสินทรัพย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เอไอจีอยู่รอดมาได้ก็ด้วยการเข้าไปช่วยเหลือให้เงินกู้หลายระลอกของทางการสหรัฐฯ รวมแล้วประมาณ 182,300 ล้านดอลลาร์

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 78.53 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,403.79 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 35.31 จุด (1.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,273.57 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.22 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,115.71 จุด

ทั้งนี้หุ้นของซานดิสค์ คอร์ป ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง 11.9 เปอร์เซ็นต์ หลัง ผู้ผลิตเมมโมรี่การ์ดรายใหญ่แห่งนี้ปรับเพิ่มประมาณการณ์ผลประกอบการไตรมาสแรกเมื่อวันศุกร์(26) และมองว่าทิศทางอุตสาหกรรมเมมโมรี่การ์ดในปีนี้จะแข็งแกร่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น