เอเอฟพี - สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ชาวตะวันตกและนิยมประชาธิปไตยแผนตะวันตก โดยระบุว่า คำตัดสินของคณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งให้ยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นบางส่วน นับเป็นการประนีประนอมที่น่าจะผ่อนเบาความตึงเครียดได้บ้าง แต่จะไม่สามารถเยียวยาความแตกร้าวอันลึกล้ำในสังคมไทยได้
“มันช่วยเพิ่มพื้นที่หายใจให้แก่สถานการณ์ที่อาจปะทุดั่งภูเขาไฟระเบิดได้” เป็นความเห็นของ พอล แชมเบอร์ส นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการเมืองไทย ณ มหาวิทยาลัยไฮเดลแบร์ก ในเยอรมนี โดยนายแชมเบอร์ส ชี้ด้วยว่าคำตัดสินดังกล่าวอาจถือเป็นชัยชนะในระดับหนึ่งของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ ต่างฝ่ายต่างไม่อาจถูกปะป้ายว่าแพ้ยับเยินในการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งก็เท่ากับว่าเกมการต่อสู้ยังต้องดำเนินกันต่อ
ในการนี้ สำนักข่าวเอเอฟพีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ฝ่ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเรียกกันว่าฝ่ายเสื้อแดง พากันเชื่อมากขึ้นว่ามันเป็นการสมคบคิดกันระหว่างพวกผู้นำฝ่ายทหาร ฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายพระราชวัง ทั้งนี้ เอเอฟพีนำเสนอความเห็นของอาร์โนด เลอโว ผู้เชี่ยวชาญเมืองไทยประจำสถาบันวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมสมัย หรือ Research Institute on Contemporary Southeast Asia ซึ่งตั้งสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ ที่กล่าวว่า คำตัดสินอาจไปเร่งกำลังของฝ่ายเสื้อแดง
ขณะที่ นายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็นต่อเอเอฟพีว่า หลังจากคำพิพากษานี้แล้ว ฝ่ายชนชั้นนำในประเทศไทยจะต้องติดตามด้วยการอ่อนข้อให้มากขึ้นอีก เพื่อยุติความวุ่นวายทางการเมือง
“การไม่ยึดทุกอย่าง(จากทักษิณ) เป็นก้าวหนึ่งในทิศทางออกจากความยุ่งเหยิงนี้” นายฐิตินันท์กล่าว และทำนายด้วยว่า
“แล้วมันจะเพียงพอสำหรับฝ่ายเสื้อแดงหรือ ไม่หรอกครับ เพราะพวกเขาไม่ได้มุ่งเฉพาะที่เรื่องทักษิณ เขามุ่งที่เรื่องสองมาตรฐาน”
สำนักข่าวเอเอฟพีลงท้ายด้วยความเห็นของนายแชมเบอร์สว่า การตัดสินคดีครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นฝ่ายปราชัย ทว่าเขาจะต้องรอคอยเวลา
“เมื่อมีทั้งผู้คนจำนวนมากมายคอยเดินตาม, มีกองทุนที่เพียงพอใช้สอย, ไม่มีคู่แข่งทางการเมืองที่สามารถเทียบเคียงบารมีของทักษิณได้ และโดยที่ฝ่ายยึดกุมอำนาจขณะนี้ ค่อยๆ อ่อนกำลังลง ทักษิณจะยังคงอยู่ในตำแหน่งแห่งที่ที่สมบูรณ์ยิ่งที่จะต่อสู้เพื่ออำนาจ แต่เขาต้องรอคอยเวลา” นายพอล์ แชมเบอร์ส กล่าว