เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างแรงในวันพฤหัสบดี(25) หลังดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกัดเซาะความกระตือร้นของนักลงทุนต่อรายงานสต๊อกพลังงานสหรัฐฯ ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดลบ ตามข้อมูลภาคแรงงานมะกันที่อ่อนแอเกินความคาดหมาย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.83 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายดิ่งลงไปถึง 77.05 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวในแดนลบชองราคาน้ำมันมีขึ้นตามแรงฉุดของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลยูโร แม้รายงานคลังพลังงานสำรองของสหรัฐฯ ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ(24) ระบุว่าช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 กุมภาพันธ์ สต๊อกเบนซินลดลงถึง 900,000 บาร์เรล อยู่ที่ 231.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี(25) ปิดลบ เหตุได้รับผลกระทบจากข้อมูลภาคแรงงานอันอ่อนแอเกินคาด ตามหลังตลาดโลกที่เคลื่อนไหวผันผวนจากวิกฤตหนี้สินของกรีซ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 52.52 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,321.64 จุด แนสแดค ลดลง 1.68 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,234.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.25 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,102.99 จุด
ตลาดขยับลงสู่แดนลบในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ย้ำให้เห็นถึงปัญหาของตลาดแรงงานที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
