โพลชี้ ชาวปินส์รู้สึกไม่ไว้วางใจ "อาร์โรโย" มากขึ้น

เอเอฟพี -ผลสำรวจความคิดเห็นเผยแพร่ออกมาวันนี้(24) ระบุว่า ชาวฟิลิปปินส์ 7 ใน 10 คน ยังคงรู้สึกไม่ไว้วางใจประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย แม้ว่าผู้นำสตรีของชาวตากาล็อกคนนี้กำลังพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้น่าตราตรึงใจ ก่อนที่จะก้าวลงจากอำนาจในปีนี้

ผลสำรวจความคิดเห็นจากพัลช์เอเชีย ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 68 บอกว่าไม่วางใจประธานาธิบดีอาร์โรโย นับเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่อาร์โรโย ก้าวขึ้นสู่อำนาจต่อจากประธานาธิบดีโจเซฟ เอสตาดรา ที่ถูกโค่นอำนาจในปี 2001

ผลสำรวจออกมา หลังจากวานนี้ ศาลสูงสุดฟิลิปปินส์วินิจฉัยว่า อาร์โรโยสามารถลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาได้ในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคมนี้ ความพยายามนี้ของเธอนับเป็นความเคลื่อนไหวที่มุ่งหวังว่า จะได้อยู่ในอำนาจต่อไป หลังจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องก้าวลงจากอำนาจในปีนี้

พวกนักวิจารณ์เชื่อว่า อาร์โรโยมีความตั้งใจจะเป็นสมาชิกสภาให้ได้ เพื่อผลักดันให้มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เปลี่ยนระบบการปกครองจากระบอบประธานาธิบดี ไปเป็นระบอบรัฐสภา จากนั้นเธอก็จะพยายามเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศให้ได้ต่อไป

การปฏิวัติของมวลชนซึ่งได้รับการสนุนจากกองทัพ ทำให้อาร์โรโยก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แทนโจเซฟ เอสตราดา ซึ่งมีรอยแปดเปื้อนเรื่องคอร์รัปชั่น

อาร์โรโย ชนะการเลือกตั้งที่มีการแข่งขันกันอย่างถึงพริกถึงขิงเป็นสมัยที่สองในปี 2004 แต่การบริหารประเทศนาน 9 ปีกลับถูกตีตราด้วยข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่นครั้งมโหฬารหลายครั้ง รวมถึงเกิดรัฐประหารที่หวังโค่นอำนาจเธอถึง 3 ครั้งด้วย

ความนิยมของอาร์โรโยยังถูกบดบี้ลงไปอีก เมื่อสมาชิกตระกูลการเมืองมุสลิมในทางตอนใต้ของประเทศที่เธอสนับสนุนอยู่ ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้บงการเหตุสังหารหมู่ 57 ศพ เพื่อกำจัดคู่แข่งทางการเมือง ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อาร์โรโย กำลังพยายามโปรยเสน่ห์ โดยได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนองค์กรสื่อต่างๆ แถมยังเชิญให้ผู้สื่อข่าวต่างชาติมาร่วมดินเนอร์ ที่ทำเนียบประธานาธิบดีของเธอด้วย หลังจากมีท่าทีปั่นปึ่งกับผู้สื่อข่าวพวกนี้ในงานระดับทางการมานานถึง 3 ปี

นอกจากนี้ อาร์โรโย ยังลงประกาศโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์ความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนความสำเร็จอื่นๆ ของรัฐบาลตัวเองด้วย