เอเจนซี/เอเอฟพี/ASTV ผู้จัดการรายวัน - อันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซีย ประกาศจะดึงตัวนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ผู้นำรัฐบาลเสือเหลืองพร้อมศรีภรรยา มาขึ้นให้การในฐานะพยานปากสำคัญ ในคดีที่เขาถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดด้วยการร่วมเพศทางทวารหนักกับอดีตผู้ช่วยส่วนตัว
อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 62 ปีซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการวางตัวให้เป็นทายาททางการเมืองอันดับหนึ่งของอดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด กล่าวระหว่างเดินทางไปขึ้นศาลที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวานนี้ (2) พร้อมด้วยวัน อาซีเซาะห์ อิสมาอิล ภรรยา และนูรูล อิซเซาะห์ บุตรสาวคนโต โดยระบุว่า เขาจะร้องขอต่อศาลให้มีการนำตัวนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของมาเลเซีย คือ นาจิบ บิน อับดุล ราซัค วัย 56 ปี พร้อมด้วยนางรอสมะห์ มันซอร์ ผู้ภรรยา มาขึ้นให้การต่อศาลในฐานะพยานปากสำคัญ ในคดีที่อันวาร์ถูกกล่าวหาว่าทำการร่วมเพศทางทวารหนักกับโมฮัมหมัด ไซฟุล บูการี อัสลัน วัย 24 ปี ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยคนสนิทของเขาเมื่อปี 2008
อันวาร์ระบุว่า เขามีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่า อดีตผู้ช่วยของเขารายนี้ได้เดินทางไปพบกับนาจิบและภรรยาที่บ้านพักในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อครั้งที่นาจิบยังดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี และการพบกันในครั้งนั้นเกิดขึ้นเพียงไม่นาน ก่อนที่จะอดีตผู้ช่วยรายนี้จะไปแจ้งความกับตำรวจเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี 2008ว่าถูกบังคับร่วมเพศทางทวารหนัก
“ผมต้องการเรียกตัวนาจิบ และภรรยาของเขามาเป็นพยาน เนื่องจากพวกเขาทั้งคู่ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัวในแผนสกปรกที่มีจุดประสงค์เพื่อใส่ความผม” อันวาร์กล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนหลายร้อยคนที่มารอให้กำลังใจบริเวณด้านหน้าศาลสูง
อันวาร์ระบุว่า คดีนี้มีความเกี่ยวข้องโยงใยกับแผนสมคบคิดของคนในรัฐบาลมาเลเซีย ที่พยายามกุเรื่องมาป้ายสีเขาเพื่อหวังทำลายอนาคตทางการเมืองของเขา เนื่องจากผู้มีอำนาจในรัฐบาลเห็นว่าตัวเขาเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อรัฐบาลผสมของมาเลเซียที่มีพรรคอัมโนเป็นแกนนำ และใช้ชื่อว่า “แนวร่วมแห่งชาติ” (Barisan Nasional)
“แผนการเหล่านี้เป็นแผนสกปรกฉ้อฉล และมีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลังอย่างชัดเจน พวกเขาพยายามทำให้ประชาชนเห็นว่าผมเป็นคนที่มีความวิปริตทางเพศและเป็นบุคคลอันตรายที่ไม่สมควรได้รับโอกาสให้มาโลดแล่นบนถนนการเมืองอีกต่อไป” อันวาร์กล่าวเพิ่มเติม
อันวาร์ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กันยายน 1998 และถูกศาลพิพากษาให้รับโทษจำคุกในข้อหาเดียวกันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เปิดเผยว่าเขาภาวนาให้การพิจารณาคดีครั้งนี้ซึ่งเลื่อนมาจากเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาผ่านพ้นไปด้วยดี แม้ตัวเขาและครอบครัวยังคงมีข้อกังขาว่าจะได้รับการพิจารณาคดีที่บริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่
การพิจารณาคดีนี้กำหนดเริ่มต้นขึ้นวานนี้ หลังจากต้องเลื่อนมาหลายเดือน สืบเนื่องจากฝ่ายจำเลยพยายามขอให้ศาลจำหน่ายคดี รวมทั้งอ้างว่ายังไม่ได้รับทราบหลักฐานของฝ่ายอัยการ เช่น ผลการตรวจร่างกายของพยานที่อ้างว่าถูกอันวาร์บังคับร่วมเพศ ตลอดจนภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด
กระทั่งถึงเมื่อวานนี้ ผู้พิพากษาศาลสูง ซาบิดิน โมฮัมหมัด เดียห์ ได้ปฏิเสธไม่ยอมรับคำร้องของทนายจำเลยที่ขอให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปอีก และสั่งให้เริ่มต้นกระบวนการพิจารณาในตอนบ่ายวันนี้(3)
อย่างไรก็ตาม ทีมทนายความของอันวาร์ยังคงแสดงความหวังว่า พวกเขาจะประสบความสำเร็จในการร้องขอต่อประธานศาลอุทธรณ์ในตอนเช้าวันนี้ เพื่อให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปก่อน
ทางด้านอัสลัน โมฮัมหมัด ลาซิม บิดาของ โมฮัมหมัด ไซฟูล เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางมาที่ศาลสูงโดยยืนยันว่า เขาพร้อมจะขึ้นให้การในคดีนี้เช่นกัน พร้อมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงกรณีที่อันวาร์กล่าวหาว่า บุตรชายของเขาเดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีนาจิบถึงบ้าน แม้ผู้นำมาเลเซียจะเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้วว่า หลังจากถูกอันวาร์ล่วงละเมิด ไซฟูลได้เคยโทรศัพท์หาเขาจริงๆ