เอเอฟพี - ฟอร์ด มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนตืสัญชาติสหรับฯ ประกาศผลประกอบการในปีที่แล้ว โดยไตรมาสที่ 4 มีรายได้ 486 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ทั้งปีสามารถทำกำไรได้ทั้งสิ้น 2,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการทำกำไรเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2005 ขณะเดียวกันประกาศระงับการผลิตรถยนต์ในจีน เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะได้รับผลกระทบแบบเดียวกับโตโยต้า
แถลงการณ์ของฟอร์ด มอเตอร์ เมื่อวันพฤหัสบดี(28) ระบุว่า ปีการเงิน 2009 ที่ผ่านมา ทำกำไรได้ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากปี 2008 ประสบภาวะขาดทุนสูงถึง 14,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการทำกำไรครั้งแรกของบริษัทฯ ในรอบ 4 ปี ขณะที่คาดว่าในปีนี้บริษัทฯ จะยังสามารถทำกำไรได้อีกเช่นกัน
ฟอร์ดระบุว่า สาเหตุที่ทำให้กลับมามีผลกำไร เนื่องจากการลดต้นทุนด้วยการลดจำนวนพนักงาน ปรับโครงสร้างบริษัท และลดภาระหนี้สิน ด้านนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทระบุว่า ผลที่ออกมาทำให้ฟอร์ดกัลมาคงสถานะบริาทรถยนต์ระดับชั้นนำในอเมริกา พิจารณาจากความเป็นผู้นำในตัวสินค้าและยอดขาย
ทั้งนี้ ฟอร์ด ซึ่งปลดพนักงานจำนวนมากระหว่างการปรับโครงสร้างกิจการ ระบุว่า ผลกำไรที่ออกมาจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่พนักงานรายชั่วโมงจำนวน 43,000 คนได้ ภายใต้ข้อตกลงกับสหภาพแรงงานผลิตรถยน๖สหรัฐฯในปี 2007 คาดว่าจะตกคนละประมาณ 450 ดอลลาร์สำหรับพนักงานที่มีสิทธิ์ อย่างไรก็ตามระบุว่า จะไม่ให้โบนัสแก่บรรดาผู้บริหาร ตามที่เคยประกาศไว้ แต่พวกพนักงานกินงินเดือนจะได้รับการปรับค่าจ้างประจำปีในปีนี้
นอกจากนี้ ฟอร์ดปยังประกาศว่า กำลังจะระงับการผลิตรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศจีน เพื่อตรวจสอบการทำงานของคันเร่ง หลังจากเกิดปัญหากับรถยนต์หลายรุ่นของโตโยต้า เพราะแผ่นพรมปูพื้นหลุดเลื่อนไปติดคันเร่ง ทำให้คันเร่งค้าง จนส่งผลให้โตโยต้าต้องประกาศเรียกคืนรถยนต์ทั่วโลกหลายล้านคัน
