เอเจนซี/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ แถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส หรือสเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน โดยยกให้การสร้างงานเป็นนโยบายสำคัญอันดับแรกของปี 2010 พร้อมพยายามฟื้นความเชื่อของอเมริกาในการรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงของเขา หลังทำงานปีแรกที่ไม่ประสบความสำเร็จนัก
ในการเปิดตัวแถลงสเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน ประธานาธิบดีโอบามายอมรับว่ารัฐบาลของเขากำลังเผชิญกับความล้มเหลวทางการเมืองในช่วงการทำงานปีแรก แต่ยืนกรานว่าเขาจะสู้ต่อไปอย่างแน่วแน่เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
"รัฐบาลของเราพบความล้มเหลวทางการเมืองบางอย่างในปีนี้ และบางอย่างก็สมควรเป็นเช่นนั้น" เขากล่าว โดยเสริมว่า "แต่ผมตื่นขึ้นมาทุกวัน โดยรู้ว่าปัญหาเหล่านั้นไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับความล้มเหลวที่ครอบครัวประชาชนทั่วประเทศต้องเผชิญในปีนี้" โอบามาเสริม
ในแถลงการณ์ ซึ่งถูกขัดจังหวะด้วยการปรบมือ และการเย้ยหยันจากพรรครีพับลิกัน โอบามาได้กล่าวระดมแผนต่างๆ ที่มีเป้าหมายแก้ไขความทุกข์ร้อนทางเศรษฐกิจของชนชั้นกลาง โดยมีความยาว 68 นาที
นอกจากนี้ เขายังประเมินการทำงานของตัวเอง ซึ่งเห็นได้จากโพลคะแนนนิยมต่างๆ ที่เคยสูงเป็นประวัติการณ์ จนตกลงมาเหลือไม่ถึง 50% อย่างตรงไปตรงมา พร้อมกล่าวระลึกถึงนโยบายการเปลี่ยนแปลง ที่เขาเคยให้สัญญาในขณะหาเสียงตามที่ต่างๆ เมื่อปี 2008 ว่าจะท้าชนกับการขัดขวางจากพรรคฝ่ายค้าน
"ขณะนี้ ผมรู้ว่ามีชาวอเมริกันหลายคนไม่มั่นใจว่าพวกเขายังจะเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ หรืออย่างน้อยว่าผมสามารถทำมันสำเร็จหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไม่เร็วพอ" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า "ผมไม่เคยมีความหวังเกี่ยวกับอนาคตของอเมริกามากเท่าที่ผมมีในคืนนี้ แม้ว่าจะมีความยากลำบากมากมาย แต่ประเทศของเราเข้มแข็ง เราจะไม่ล้มเลิก เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะไม่ยอมให้ความกลัว หรือความแตกแยกมาทำลายจิตวิญญาณของเราได้"
พร้อมกันนี้ เราได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายจ้างงานให้เขาลงนามโดยไม่ให้มีความล่าช้า และเตือนว่า หากสมาชิกสภานิติบัญญัติไม่ยอมเดินหน้าแก้ไขปัญหาในวอลล์สตรีทตามวิธีของเขาแล้ว เขาก็จะวีโต้ร่างกฎหมายของสมาชิกเหล่านั้นเช่นเดียวกัน
"งานต้องสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในปี 2010" โอบามากล่าว และสัญญาว่าจะอัดฉีดเงินทุนช่วยเหลืออีก 30,000 ล้านดอลลาร์จากธนาคารในวอลล์สตรีท เพื่อดึงธุรกิจขนาดเล็ก ที่ยังไม่หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นมา
นอกจากนี้ เขายังระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องเพิ่มการส่งออกสินค้าเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปี เพื่อสนับสนุนงานอีก 2 ล้านตำแหน่ง และส่งเสริมการค้ากับเกาหลีใต้ ปานามา และโคลัมเบีย แต่กลับไม่เร่งให้คองเกรสผ่านข้อตกลงการค้า
โอบามายังได้เปลี่ยนไปพูดเรื่องนโยบายต่างประเทศก่อนที่จะจบแถลงการณ์ โดยเตือนอิหร่านว่าอาจจะต้องเจอกับการโต้ตอบที่เพิ่มขึ้น หากยังไม่หยุดโครงการนิวเคลียร์ ส่วนเกาหลีเหนือก็จะถูกโดดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นผลจากการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นผู้นำสหรัฐฯ ยังได้เรียกร้องการสนับสนุนกองกำลังสหรัฐฯ ที่เขาตัดสินใจส่งไปเพิ่มในอัฟกานสถาน โดยย้ำว่าทหารอเมริกันในอิรักจะต้องได้กลับบ้านตามกำหนดภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้