เอเอฟพี - นางพยาบาลในโรงพยาบาลเจเนอรัลฮอสพิทัลในกรุงปอร์โตแปรงซ์กำลังโอบอุ้มทารกน้อยเพศหญิง ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตออกมาได้จากซากปรักหักพัง เมื่อวันจันทร์ (18) หรือ 6 วันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ถล่มเฮติ รวมถึงบ้านของเด็กน้อยอายุเพียง 18 เดือนคนนี้
ทารกเพศหญิงซึ่งเชื่อว่าอายุเพียง 18 เดือน เนื้อตัวเปรอะเปื้อนด้วยฝุ่น อย่างไรก็ตาม ดูมีสุขภาพดี ไม่มีใครรู้ชื่อของเด็กน้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเชื่อว่า ครอบครัวของเธอตายไปหมดแล้ว หลังจากบ้านถล่มลงมาด้วยแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ เมื่อเย็นวันอังคาร(12) ที่ผ่านมา
"เหลือเชื่อ" นางพยาบาลกล่าว ขณะที่อุ้มเด็กน้อยพร้อมๆ กับเช็ดตัวและให้น้ำดื่ม "เธอไม่มีบาดแผลใดๆ เลย มีเพียงเด็กเท่านั้นที่อยู่รอดมาได้ถึง 6 วันในสภาพแบบนั้น"
ทารกหญิงไม่ทราบชื่อคนนี้ เป็นทารกคนที่สองที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นเจอ และช่วยชีวิตออกมาได้ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวมานานแล้วหลายวัน
ที่โรงพยาบาลอิสราเอลฟิลด์ นอกกรุงปอร์โตแปรงซ์ แพทย์กำลังดูแลรักษาตัวเด็กชายฌอง หลุยส์ บราห์มส วัยเพียง 8 เดือน ซึ่งติดอยู่ในซากปรักหักพังที่เคยเป็นบ้านของเขามาถึง 5 วัน
พ่อและพี่ชายของฌอง หลุยส์ หนีออกมาจากบ้านได้ก่อนที่บ้านจะถล่ม และได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่เด็กชายฌอง หลุยส์ ติดอยู่ในซากบ้านนานอยู่หลายวัน จนเพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้องและติดต่อให้เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเข้าช่วยเหลือ
ด้านแม่ของเด็กน้อยเผยว่า เธอกลับไปบ้านตั้งหลายครั้ง "ฉันรอ เรียกหาลูก แต่ไม่มีเสียงตอบ" เธอกล่าว
"ฉันอยู่นั่นไม่ได้ ฉันยอมรับไม่ได้ว่า ลูกตายไปและถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังนั้น ฉันจึงทิ้งบ้านไป" เธอกล่าวขณะที่น้ำตาพรั่งพรูออกมา
"เมื่อฉันมองไปดูลูกตอนนี้ ฉันร้องไห้ออกมาด้วยความสุข และเชื่อในพระเจ้ามากกว่าเคย" "ฉันหมดหวังไปแล้วว่าลูกยังจะมีชีวิตอยู่"
ด้านอามิต อัสซา แพทย์ชาวอิสราเอลในโรงพยาบาลแห่งนี้เผยว่า ฌอง หลุยส์ เกือบจะสิ้นใจไปแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบก่อนจะกระตุ้นหัวใจให้เขาฟื้นขึ้นมาได้
"เขาตอบสนองกับยาปฏิชีวะนะในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา" " มันเหลือเชื่อที่เขายังมีชีวิตรอดมาได้โดยไม่ได้ดื่มน้ำ และกินอาหารเลย นานถึง 5 วัน และในสภาพอากาศที่ร้อนแบบนี้"
อย่างไรก็ตาม ขาข้างหนึ่งของเด็กชายถูดบดขยี้และเนื้อส่วนนั้นก็เริ่มกลายเป็นเนื้อตาย "เราไม่รู้ว่าจะช่วยรักษามันไว้ได้หรือไม่" นายแพทย์อัสซากล่าว
โรงพยาบาลอิสราเอลฟิลด์กำลังรักษาอาการเหยื่อแผ่นดินไหวราว 250 คน ส่วนใหญ่ถูกฉุดร่างออกมาจากซากปรักหักพังของกรุงปอร์โตแปรงซ์ โดย 80 รายเป็นเด็กๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้าที่กำลังงุนงงปะติดปะต่อว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับพวกเขา
กระทั่งพวกผู้ใหญ่เองก็ยากจะแบกรับความจริงที่เกิดขึ้นกับเมืองทั้งเมืองที่พังพินาศราบคาบลงไปได้ บางทีอาจจะดีที่ยังเด็ก และยังไม่เข้าใจว่าหายนะที่เกิดขึ้นคราวนี้มันเลวร้ายมากขนาดไหน
เด็กสาวชื่อโรสแมรียังร้องไห้ไม่หยุด นับตั้งแต่เธอได้รับการช่วยเหลือออกมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากแผ่นดินไหวเกิดขึ้น 4 วัน ตอนนั้น เธอกำลังทาอาหารกับเพื่อนๆ ซึ่งทั้งหมดตายต่อหน้าตอ่ตาเธอ และตามความเห็นของแพทย์ จนถึงบัดนี้ เธอยังไม่รับรู้ว่าเธอรอดชีวิตมาได้จากหายนะครั้งนี้
"เธอได้แต่เอ่ยชื่อเดิมซ้ำๆ และกล่าวพึมพำ" พยาบาลในโรงพยาบาลอิสราเอลฟิลด์กล่าว ขณะที่กำลังทำแผลให้โรสแมรี "เธอยังคงเชื่อว่าเธอกำลังอยู่ในร้านอาหารนั้นอยู่"
ผู้รอดชีวิตที่อยู่ใกล้ๆ ตรงนั้นอีกคน แจ็คกี้ เดส์บัวส์ ยังคงกำลังทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้นขณะที่เขาติดอยู่ในซากปรักหักพังของโบสถ์แห่งหนึ่ง
"ราวกับว่ามีชีวิตอยู่ในสุสาน" " ผมเชื่อมั่นว่า พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทอดทิ้งผม ผมจึงสวดอ้อนวอน แต่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้า ผมคิดว่าผมจะต้องตายไปในนั้น โดยไม่มีใครพบเลย"
"เพื่อนๆ คว้าตัวผมออกมา แต่พวกเขาทำให้ขาผมหัก ตอนนี้พวกเขาต้องผ่าตัดให้ผม แต่ผมก็มีความสุขที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมไม่สนใจเรื่องขานั่นหรอก" เดส์บัวส์กล่าว
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเกือบสัปดาห์แล้ว ตอนนี้พบผู้รอดชีวิตน้อยลงลงไปทุกทีๆ
หนึ่งในกลุ่มผู้ที่โชคดีรอดชีวิตมาได้ คือ มารี ฟรองซ์ วัย 22 ปี ซึ่งถูกฉุดร่างออกมาจากซากตึก เมื่อวันอาทิตย์(17) ที่ ผ่านมา หลังต้องสูญเสียแขนขวาไป
"ฉันไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นข้างนอก ฉันคิดอย่างเดียวว่าต้องมีชีวิตอยู่รอดต่อไป" มารี ฟรองซ์ กล่าวพะงึมพะงำ ขณะที่นอนพักอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลและยังอยู่ในฤทธิ์ของมอร์ฟีน
ด้านชายวัยเกือบ 70 ปีผู้หนึ่งเผยว่า เขาติดอยู่ร้านเบเกอรีตัวเองนานถึง 4 วัน
"ผมเตรียมตัวตายแล้ว เวลาดูเหมือนไม่สิ้นสุด ตอนที่ผมถูกดึงออกมานั้น ผมไม่รู้เลยว่า มันสองวันหรืออาทิตย์หนึ่งแล้ว" เขากล่าว