คะแนนนิยมนายกฯญี่ปุ่นลดลงอีกแล้ว

เอเอฟพี - คะแนนนิยมนายกรัฐมนตรียูกิโอะ ฮาโตยามะ ผู้นำหัวกลางซ้ายของญี่ปุ่นลดลงเหลือแค่ระดับร้อยละ 40 ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับผู้นำเบอร์สองของพรรครัฐบาล ที่กำลังถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ขณะนี้อัยการกำลังตรวจสอบว่า มีการติดสินบนจากบริษัทก่อสร้างเขื่อนในเขตฐานเสียงของอิชิโร โอซาวะ เลขาธิการพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟเจแปน(ดีพีเจ) หรือไม่ รวมถึงมีการฟอกเงินผ่านองค์กรระดมมทุนทางการเมืองของเขาเพื่อช่วยให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเขตตลาดบนหรือไม่

ผู้ตอบแบบสำรวจของหนังสือพิมพ์โยมิอูริร้อยละ 70 ระบุว่า โอซาวะ วัย 67 ปี ซึ่งเป็นอดีตประธานพรรคดีพีเจ ผู้ได้ฉายาว่า "โชกุนเงา" เพราะเป็นผู้กุมยุทธศาสตร์อยู่เบื้องหลังชัยชนะการเลือกตั้งของนายกรัฐมนตรีฮาโตยามะ ควรจะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคดีพีเจ ขณะที่ผลสำรวจยังพบว่า คะแนนิยมของฮาโตยามะ ลดลง 11 จุด เหลือเพียงร้อยละ 45 ขณะที่ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์อาซาฮีพบว่า คะแนนนิยมของฮาโตยามะลดลง 6 จุด เหลือร้อยละ 42

โยมิอูริทำแบบสำรวงกับผู้มิสิทธิ์เลือกตั้ง 1,146 คน ส่วนอาซาฮี 2,182 คน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่อัยการจับกุมอดีตผู้ช่วยของโอซาวะ 2 คน และเลขานุการคนปัจจุบันของเขา ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่รายงานการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในกรุงโตเกียวมูลค่า 400 ล้านเยน (4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ระหว่างการประชุมพรรคเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โอซาวะ ยืนกรานว่า เขาจะทำหน้าที่เลขาธิการพรรคดีพีเจต่อไป แต่ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 90 จากโพลของทั้งสองสำนักระบุว่า เขาต้องมีคำอธิบายที่ดีกว่านี้เกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องทางการเงินของเขา

โอซาวะ ได้รับเครดิตว่าช่วยทำให้พรรคดีพีเจได้ชัยชนะเหนือพรรคแอลดีพี(ลิเบอร์รัลเดโมเครติกปาร์ตี้) ที่กุมอำนาจบริหารประเทศเกือบตลอด 50 ปีที่ผ่านมา โอซาวะ เคยเป็นสมาชิกพรรคแอลดีพีมาก่อนจะห้าวขึ้นเป็นผู้นำพรรคดีพีเจ เขาเป็นผู้นำพรรคดีพีเจจนกระทั่งข่าวอื้อฉาวทางการเงินบีบให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งประธานาพรรคดีพีเจ เมื่อต้นปีที่แล้ว จากนั้นฮาโตยามะ มือขวาของเข้าก็ขึ้นเป็นประธานพรรคแทน

ทั้งนี้ โพลสำรวจความเห็นชาวญี่ปุ่นออกมาในขณะที่ญี่ป่นกำลังเริ่มการประชุมสภาระยะเวลา 150 วัน ซึ่งคาดว่าพรรคฝ่ายค้านหัวอนุรักษ์นิยมจะโจมตีรัฐบาลอายุ 4 เดือนนี้ ด้วยการพุ่งเป้าโจมตีรัฐบาลด้วยข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับโอซาวะ รวมถึงการโจมตีตัวนายกรัฐมนตรีฮาโตยามะเอง ที่กำลังถูกกล่าวหาว่า รับเงินลับๆ จากมารดามาใช้เคลื่อนไหวในกิจกรรมด้านการเมืองเช่นกัน