เอเจนซี – ผลสำรวจความเห็นชาวญี่ปุ่นล่าสุดที่นำออกเปิดเผยวันจันทร์ (21) ระบุ นายกรัฐมนตรียูกิโอะ ฮาโตยามะ มีคะแนนสนับสนุนลดลงจาก 62 เปอร์เซ็นต์ในเดือนที่แล้ว มาอยู่ที่ 48 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ประชาชนแสดงความผิดหวังกับการที่ผู้นำใหม่ผู้นี้ไม่สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ได้รวดเร็วพอ
ฮาโตยามะจากพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟ แจแปน (ดีพีเจ) กวาดชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเขาได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับชาวญี่ปุ่น เป็นต้นว่า จัดสรรเงินสงเคราะห์บุตร และเลิกการเก็บภาษีสรรพสามิตจากน้ำมัน
ทว่า ในภาวะที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสูงจนเท่ากับ 200 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปรากฏว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 70 เปอร์เซ็นต์จากการสำรวจของสองสำนักเชื่อว่า ในการให้เงินสงเคราะห์บุตรนั้น เพื่อความเหมาะสมรัฐบาลควรมีการกำหนดเพดานรายได้สูงสุดของครอบครัวที่จะได้รับ และผู้ตอบคำถามกว่าครึ่งหนึ่งเห็นว่ารัฐบาลควรเก็บภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันต่อไป
ผลโพลเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเข้าใจดีว่า ฮาโตยามะเผชิญอยู่กับภาวะที่ตัดสินใจยากมาก ระหว่างการเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อช่วยผู้บริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป กับการดึงเศรษฐกิจให้เดินหน้าช้าลงเพื่อลดภาระหนี้สินสาธารณะ
นอกจากนั้นผลโพลดังกล่าวน่าที่จะทำให้ฮาโตยามะตัดสินใจมุ่งหน้าแก้ปัญหาหนี้สาธารณะได้ง่ายขึ้น ทว่าในอีกด้านหนึ่งเขาก็เป็นห่วงว่า การลดทอนมาตรการช่วยเหลือประชาชน จะทำให้โอกาสที่พรรคดีพีเจจะได้ชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสภาในช่วงกลางปีหน้าก็ลดน้อยลงด้วย