เอเอฟพี - อันดัล อัมปาตวน จูเนียร์ ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในคดีสังหารหมู่ 57 ศพที่ฟิลิปปินส์ขึ้นศาลพิเศษในวันนี้(5) โดยมีตำรวจรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ปฏิเสธไม่ได้ทำผิด ขณะที่มีคนกังขาว่าการเมืองอาจมีอิทธิพลเหนือกระบวนการยุติธรรมเหมือนที่ผ่านๆ มา
อันดัล อัมปาตวน จูเนียร์ ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมหลายกระทงในคดีสังหารหมู่ที่จังหวัดมากินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 57 คน ในจำนวนนี้มีสตรีครรภ์แก่ที่เป็นญาติของนักการเมืองคู่อริและผู้สื่อข่าวประมาณ 30 คนรวมอยู่ด้วย ขณะที่อัมปาตวน ซีเนียร์ บิดาของเขา วึ่งเป้นผู้ว่าจังหวัดมากินดาเนา รวมถึงสมาชิกกลุ่มการเมือง
อีกหลายคนถูกจับตัวตามกฏอัยการศึก และถูกตั้งข้อหากบฏด้วย
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาครั้งแรกในวันนี้ ทนายของอัมปาตวน จูเนียร์ บอกว่า ลูกความของเขาาไม่ได้ทำอะไรผิด ขณะที่ศาลสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปเป็นสัปดาห์หน้า หลังจาก
อัยการได้แสดงตัวพยานนับสิบคนเพื่อขัดขวางการประกันตัวอัมปาตวนออกไป
รามอน คาสิเปิล นักวิเคราะห์การเมืองจากสถาบันปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจชี้ว่า คดีนี้ทุกคนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นคดีของตระกูลทรงอิทธิพลที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองเหนียวแน่นและมีอำนาจที่จะข่มขู่หรือแม้กระทั่งฆ่าปิดปากพยาน กระบวนการยุติธรรมจะถูกทดสอบอีกครั้งเพราะที่ผ่านมาคดีนักการเมืองใหญ่ไม่เคยได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ เช่น การพิจารณา
คดีของโจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดีที่ยืดเยื้อถึง 6 ปี เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดและจำคุกตลอดชีวิต แต่แล้วประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ก็ให้อภัยโทษได้เป็นอิสระอีกครั้ง
คาสิเปิล เผยด้วยว่า ทนายความบางคนในคณะทนายจำเลยของนายอัมปาตวน เคยสู้คดีให้เอสตราดา มาก่อน และคาดว่าจะมีลูกเล่นแพรวพราวเตะถ่วงการพิจารณาคดี ผู้พิพากษาคนหนึ่งได้ขอถอนตัวจากการไต่สวนคดีนี้ไปแล้วโดยให้เหตุผลว่าเกรงเป็นภัยต่อชีวิต ขณะที่มีเสียงเรียกร้องจากบรรดาอัยการให้กระทรวงยุติธรรมรับประกันความปลอดภัยของพยาน
ทั้งนี้ อัมปาตวน ซีเนียร์ เป็นผู้ว่าจังหวัดมากินดาเนามาแล้วเกือบ 10 ปี และเตรียมให้อัมปาตวน จูเนียร์ ผูัเป็นบุตรชายสืบทอดอำนาจในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนพฤษภาคมนี้ อัมปาตวน ซีเนียร์ สั่งสมอิทธิพลเพราะประธานาธิบดีอาร์โรโย ปล่อยให้เขามีกองกำลังติดอาวุธ 3,000 คน หวังควบคุมกลุ่มแยกดินแดนทางตอนใต้ของประเทศ ตระกูลอัมปาตวนตอบแทนด้วยการให้คนในจังหวัดเทคะแนนให้อาร์โรโย และผู้สมัครในสังกัดชนะเลือกตั้งถล่มทลายเมื่อปี 2004 ท่ามกลางเสียงครหาเรื่องโกงการเลือกตั้ง
เมื่อเดือนที่แล้ว องค์กรอินเตอร์เนชั่นแลไครซิสกรุ๊ป ออกมาระบุว่า อาร์โรโย ต้องมีส่วนรับผิดชอบในการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้น เพราะอาร์โรโยปล่อนให้ "พวกทรราชย์ในท้องถิ่น"ทำอะไรตามอำเภอใจด้วยความละโมบและทะเยอทะยาน